เชื่อว่าขณะนี้สาวกวงการฟุตบอล และผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล จะต้องรู้สึกถึงความดุเดือด และความร้อนระอุของการแข่งขันที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งการแข่งขัน ที่น่าจับตามองรองลงมาจากการแข่งขันระดับโลก โดยโปรแกรมการแข่งขันนี้ เป็นหนึ่งในการแข่งขันที่มีความดุเดือดทุกแมตช์ทุกรอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเชียร์บอลตัวยง หรือว่าผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการดูบอลมาก่อน ก็ต้องสัมผัสได้ถึงความร้อนแดงของการแข่งขันในชาติยุโรปนี้อย่างแน่นอน
ฉะนั้นแล้วในบทความนี้ จะเป็นอีกหนึ่งบทความที่เราจะพาทุกท่าน ไปรู้จักกับการแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือเรียกง่ายๆ ก็คือการแข่งขัน ฟุตบอลยูโรนั่นเอง ใครที่กำลังมองหาทีมประจำ หรือใครที่มีทีมชาติประจำอยู่แล้วละก็ เชื่อว่าการแข่งขันนี้จะเป็นอีกหนึ่งรายการ ที่จะทำให้คุณสนุกสนานและตื่นเต้นไป ในทุกๆ ย่างก้าวของนักกีฬาอย่างแน่นอน โดยเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 เพิ่งมีการแข่งขันนัดสุดท้าย เพื่อเฟ้นหาทีมชาติทั้งหมด 24 ทีม เข้าสู่การแข่งขันหลัก ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ ประเทศเยอรมันในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ดังนั้นแล้วเพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมการแข่งขันฟุตบอลดังกล่าว เราถึงอยากจะพาทุกท่านไปรู้จักกับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์นี้ให้มากินขึ้น
การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (European Football Championship) หรืออีกชื่อที่เราได้ยินประจำนั้นก็คือ ฟุตบอลยูโร ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรายการ การแข่งขันฟุตบอลที่สำคัญและน่าจับตามองที่สุดของ ทีมชาติในทวีปยุโรป โดยแน่นอนว่าจะมีการจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป พร้อมทั้งมีการจัดการแข่งขันห่างจากการแข่งขันระดับโลกของฟีฟ่า 2 ปี โดยแรกเริ่มเดิมทีแล้วมีการจัดการแข่งขันนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ 2503 หรือ ค.ศ 1960 ในขณะนั้นใช้ชื่อว่า ยูโรเปียนเนชันส์คัพ (European Nations Cup) ชื่อนี้มาจาก อ็องรี เดอโลแน เลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส
ซึ่งในการแข่งขันที่เคยถูกจัดขึ้นมา 5 ครั้งแรก มีทีมชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 4 ประเทศด้วยกัน จนกระทั่งการแข่งขันครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2511 หรือ ค.ศ 1968 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก ยูโรเปียนเนชันส์คัพ (European Nations Cup) เป็น ยูโรเปียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป นั้นเอง ต่อมาในการแข่งขันครั้งที่ 6 ก็มีทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันถึง 8 ประเทศด้วยกัน จากนั้นการแข่งขันครั้งที่ 10 เมื่อ พ.ศ. 2539 หรือ ค.ศ. 1996 ก็ได้มีทีมชาติให้ความสนใจเพิ่มข้าพร้อมทั้ง เพิ่มจำนวนของ ทีมชาติขึ้นถึง 16 ประเทศ เลยทีเดียว
ในการแข่งขันครั้งที่ 15 เมื่อปี พ.ศ. 2559 ได้มีทีมชาติในรอบสุดท้ายเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 24 ทีมชาติด้วยกัน เฉกเช่นในปัจจุบัน ด้วยความที่กีฬาฟุตบอลเองได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับเสียงเรียกจากแฟนๆ ทำให้ฝ่ายทางผู้จัดเองได้มีการเพิ่มจำนวนทีมชาติที่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 24 ทีม และ ในปีนี้ก็จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ประเทศเยอรมนีจะมีเสียงเชียร์ดังกึกก้องทั่วสเตเดียมในฐานะเจ้าภาพอีกด้วยนั้นเอง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://th.wikipedia.org/wiki/ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
