“ลิเวอร์พูล” เปิดสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ “เบิร์นลีย์” ที่มาพร้อมกับความกดดัน! เพราะเริ่มเตะคิฟออฟเวลา 22.00 น. เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 ก.พ ซึ่งก่อนหน้าเวลา 19.30 น. แมนซิตี้เตะก่อน และยึดตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราวได้สำเร็จ! จึงเป็นปัญหาถ้าหากว่า ผลบอล ลิเวอร์พูลพลิกล็อก แพ้หรือเสมอ ก็จะเสียตำแหน่งจ่าฝูงยาว
ทำเอาแฟนบอลลุ้นใจหาย เพราะนายทวารอย่าง “อลีสซง เบ็คเกอร์” ก็ไม่ได้ลง เนื่องจากอาการป่วย แต่โชคยังเข้าข้าง เริ่มเกมมาเป็นฝ่ายเจ้าบ้าน ที่สามารถบุกคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง และทำประตูขึ้นนำได้ในนาทีที่ 31 จาก “ดีโอโก้ โชต้า” โหม่งบอลเข้าตาข่ายหลังได้ลูกเตะมุม
แต่ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก นาทีที่ 45 ก็ไม่วายโดนตีเสมอจนได้!! จากจังหวะเตะมุมเช่นเดียวกัน และก็เป็น “ดารา โอเช” ที่โหมงบอลเข้าประตูไป ทำให้ครึ่งเวลาแรกผลบอลจบที่เสมอกันไป 1 – 1 ประตู และเมื่อเริ่มครึ่งเวลาหลัง ทางลิเวอร์พูลใช้เวลาเพียงแค่ 7 นาทีเท่านั้น ทำประตูหนีห่างขึ้นเป็น 2 – 1
ในนาทีที่ 52 “หลุยส์ ดิอาซ” ซัดบอลเข้าประตู แต่ก็หายไม่ทั่วท้อง เพราะมีการเช็ค VAR เกิดขึ้นว่าลูกนี้เป็นลูกล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนจะมีการตัดสินว่าไม่ล้ำ! ยืนยันการเป็นประตูให้กับฝั่งเจ้าบ้าน จึงให้ฝั่ง “เบิร์นลีย์” บุกหนักขึ้นเพื่อพยายามตีเสมอให้ได้ แต่สุดท้ายก็พลาดโอกาสทอง
มิหนำซ้ำยังโดนลูกยิงปิดกล่องในนาทีที่ 79 “ดาร์วิน นูนเญซ” ผงาดโหม่งเข้าเน้นๆ เป็นประตูชัยให้หงส์แดง เปิดบ้านเอาชนะน้องใหม่เบิร์นลีย์ เก็บแต้มสำคัญเอาไว้จนได้ และกลับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกครั้ง มีแต้มมากกว่า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” 2 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2762265
