ระบบการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2025-2026 กติกา รูปแบบ และสิ่งที่ต้องรู้

ระบบการแข่งขันพรีเมียร์ลีก 2024-2025 กติกา รูปแบบ และสิ่งที่ต้องรู้

พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2025-2026 ได้กลับมาอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง พร้อมบรรยากาศความเข้มข้นที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอ โดยเฉพาะแฟนชาวไทยที่ติดตาม ตารางการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตั้งแต่วันเปิดฤดูกาล เพราะปีนี้มีกฎใหม่ การอัปเดตเทคโนโลยี และเส้นทางลุ้นแชมป์ที่พลิกได้ตลอดเวลา

ตารางการแข่งขัน 38 นัด เหย้า-เยือน ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

สำหรับ ตารางการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หรือ ลีกสูงสุดของอังกฤษยังใช้ระบบเดิม คือมีทั้งหมด 20 ทีม แข่งขันแบบพบกันทั้งหมด เหย้าและเยือน ทีมละ 38 นัด รวมแล้วทั้งฤดูกาลมีถึง 380 แมตช์เต็มอรรถรส

ช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาล

  • สิงหาคม : เปิดฤดูกาล เกมแรกของทีมเลื่อนชั้น
  • ธันวาคม : ช่วงบ็อกซิ่งเดย์สุดคลาสสิก เกมถี่แทบไม่ทันหายใจ
  • มีนาคม-พฤษภาคม : เวลาชี้ชะตา ใครจะได้แชมป์ ใครจะตกชั้น

การตัดสินแชมป์ – ลุ้นยุโรป – หนีตกชั้น

ทีมที่มีคะแนนรวมสูงสุดหลังจบ 38 นัดคือแชมป์ทันที ไม่มีเพลย์ออฟ หากคะแนนเท่ากันจะใช้ ผลต่างประตูได้เสีย (Goal Difference) เป็นตัวตัดสิน และหากยังเท่ากันจะดู จำนวนประตูที่ยิงได้ (Goals Scored)

ในโซนบนของตาราง

  • Top 4 ได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
  • อันดับ 5-6 ได้สิทธิ์ไปยูโรปาลีกหรือคอนเฟอเรนซ์ลีก

ส่วนทีมท้ายตาราง อันดับ 18-20 ต้องตกชั้นลงไปเล่นใน EFL Championship หรือ ดิวิชั่น 1 ทันที ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นทีมใหญ่ต้องหนีตายกันถึงเกมสุดท้ายเลยทีเดียว

VAR และเทคโนโลยีใหม่

VAR หรือ Video Assistant Referee ยังคงเป็นพระเอกในห้องควบคุมฤดูกาลนี้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ “ความเร็วและความโปร่งใส” พรีเมียร์ลีกเริ่มใช้ระบบ “semi-automated offside” หรือเทคโนโลยีตรวจจับล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ทำให้จังหวะปัญหาอย่าง “หัวกับไหล่ล้ำหรือไม่ล้ำ” ตัดสินได้รวดเร็วกว่าเดิม

นอกจากนี้ลีกยังเปิดให้แฟนบอลติดตามการตัดสินผ่าน @PLMatchCentre ซึ่งรายงานจังหวะที่ VAR ตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ถือเป็นความพยายามลดความไม่เข้าใจระหว่างกรรมการกับแฟนบอล

กฎใหม่ประจำฤดูกาล 2025-2026

ปีนี้พรีเมียร์ลีกเพิ่มความเข้มของเกมให้เร็วและแฟร์ขึ้น ด้วยกฎที่น่าสนใจหลายข้อ เช่น

  1. ระบบ Multiball
    มีลูกฟุตบอลสำรองวางรอบสนามถึง 15 ลูก เพื่อให้เกมไม่สะดุดเวลาบอลออกนอกสนาม
  2. การคำนวณเวลาทดเจ็บแบบใหม่
    หากทีมใช้เวลาฉลองประตูเกิน 30 วินาที ผู้ตัดสินจะนำเวลานั้นไปรวมในช่วงทดเจ็บ
  3. กฎ Handball ปรับความยืดหยุ่น
    ถ้าแขนโดนบอลโดยไม่ตั้งใจและไม่ได้เปลี่ยนทิศทางเกม จะไม่ถือเป็นฟาวล์โดยอัตโนมัติ
  4. การเปลี่ยนตัวและวอร์มอัพ

ความแตกต่างจากลีกอื่น

สิ่งที่ทำให้ พรีเมียร์ลีก ยังครองความนิยมอันดับหนึ่งของโลก คือความเข้มข้นตลอดทั้งฤดูกาล และไม่มีทีมไหนได้พักจริงๆหรอก เพราะทุกแต้มมีค่ามาก แพ้แค่สองสามนัดก็หล่นจากโซนยุโรปได้เลยหละ

ถ้าเทียบกับลีกอื่น เช่น ลาลีกา หรือบุนเดสลีกา ลีกอังกฤษใช้จำนวนเกมมากกว่า และเน้นความคงเส้นคงวาของ ผลบอลพรีเมียร์ลีก ตลอดปี ไม่ใช่แค่บิ๊กแมตซ์ เพียงสามสี่นัดเท่านั้น นอกจากนี้ระบบ VAR และการบริหารลีกของอังกฤษยังมีความโปร่งใสและทันสมัยกว่าหลายประเทศ

สรุปท้ายบท

สรุปก็คือ พรีเมียร์ลีก 2025-2026 คือฤดูกาลที่ทุกอย่างถูกยกระดับขึ้น ทั้งความเร็วของเกม กฎใหม่ และเทคโนโลยี VAR ที่ช่วยให้การตัดสินแม่นยำขึ้น ทุกทีมต้องเจอกันครบ 38 นัด อย่างไม่ต้องสงสัย และ แฟนบอลชาวไทยสามารถติดตาม ตารางการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ได้ตลอดเวลา ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ทางการของลีกและสื่อกีฬาออนไลน์ ของ สกอร์ฟุตบอล

สำหรับใครที่อยากอัปเดตผลบอลแบบเรียลไทม์ scorefootball สามารถ ดูผลบอลทุกแมตช์จากทั่วโลก รวมทั้ง ตารางการแข่งขันพรีเมียร์ลีก และสถิติสำคัญ อัปเดตไว เข้าใจง่าย ดูได้ทุกวันไม่พลาดทุกเกม

Scorefootball เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล การแข่งขันทุกลีค ให้บริการทั้ง ผลบอลสด ดูบอลสด ไฮไลท์บอล และทีเด็ดบอล สามารถเช็คผลบอลสดวันนี้ และอัตราต่อรอง แสดงผลเป็นตารางพร้อมภาษาไทย เช็คง่าย พร้อมให้บริการดูบอลสดออนไลน์ แบบ Full HD คมชัด ไม่มีกระตุก และยังมีไฮไลท์บอล ครบทุกลีค อีกทั้งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับทีเด็ดบอล เทคนิควิเคราะห์ผลบอลครบทุกคู่ ทุกการแข่งขัน การันตีแม่นทุกคู่

 

Copyright scorefootball © 2025 สงวนลิขสิทธิ์