เปิด 7 สถิติและความสำเร็จ ซาล่าห์ อาจทำได้กับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ : PPTVHD36

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยังคงระเบิดฟอร์มสร้างผลงานให้กับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่ายังไรความคืบหน้าเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ โดยยาวยิงชาวอียิปต์จะค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์จนถึงซัมเมอร์ปี 2025 
บวกกับล่าสุด โพสต์ข้อความแฝงความในเกี่ยวกับอนาคตกับสโมสร “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่มีวันลืมความรู้สึกเมื่อทำประตูได้ที่แอนฟิลด์ “

อย่างไรก็ตามแม้ยังมีความไม่ชัดเจนเกิดขึ้นแต่ ซาล่าห์ ยังคงอยู่และเริ่มต้นฤดูกาล 2024-25 ได้อย่างแข็งแกร่ง และกำลังเพิ่มสถิติ และความสำเร็จที่น่าประทับใจ 

AFP/Darren Staples
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ฮีโร่ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรท์ตัน

Squawka ได้รวบรวมสถิติและความสำเร็จ 7 เรื่อง ที่ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ อาจทำลายและเหตุการณ์สำคัญที่สามารถทำได้กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ มาติดตามกันว่ามีสถิติอะไรบ้าง 

ท็อป 5 ผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลในพรีเมียร์ลีก 
ซาล่าห์ ยิงได้ 7 ประตู จากการลงสนาม 10 นัดแรกในพรีเมียร์ลีก ทำให้มีสถิติทำสกอร์ในลีกสูงสุดของอังกฤษไปแล้ว 164 ประตู แซงหน้า เจอร์เมน เดโฟ (162) และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (163) ตอนนี้เหลืออีกเพียง 20 ประตูเท่านั้น จะตามหลัง เซร์คิโอ อเกวโร่ อันดับ 5 โดยตามหลัง แอนดี้ โคล 3 ประตู ซึ่งอยู่อันดับ 4 และกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะยิงได้ 27 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งจะทำให้ตามหลังนักเตะทีมชาติอังกฤษเพียง 3 คนเท่านั้น คือ เวย์น รูนี่ย์ (208), แฮร์รี่ เคน (213) และ อลัน เชียเรอร์ (260) 

นักเตะทำประตูสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 ของลิเวอร์พูล
ซาล่าห์ จะกลายเป็นตำนานของลิเวอร์พูลเมื่อทุกอย่างจบลง ปัจจุบันอยู่อันดับ 5 ในรายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ขณะนี้เหลืออีก 8 ประตูเท่านั้นที่จะตามหลัง บิลลี่ ลิดเดลล์ ที่ทำไว้ 228 ประตู และสถิตินี้น่าจะสำเร็จในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เขาจะแซงหน้า กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน อันดับ 3 ทำไว้ 241 ประตู เนื่องจาก ซาล่าห์ ตามหลัง 21 ประตู นั่นจะทำให้เขาตามหลังเพียง โรเจอร์ ฮันท์ (285 ประตู) และ เอียน รัช (346 ประตู)

นักเตะต่างชาติที่ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก
ตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1992 พรีเมียร์ลีกพัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งในลีกระดับสูงที่หลากหลายที่สุดในยุโรป โดยมีผู้เล่นสัญชาติต่างๆ มากกว่า 110 สัญชาติ และมีผู้ทำประตูได้มากกว่า 101 คน ดไวท์ ยอร์ค เป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ยิงได้ 100 ประตู ขณะที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นนักเตะแอฟริกันคนแรกที่ทำได้ในระดับเดียวกัน ด้วยจำนวน 164 ประตู ขณะที่ ซาล่าห์ เป็นหนึ่งใน 3 นักเตะต่างชาติที่ติด 10 อันดับแรกตลอดกาล  ร่วมกับ เธียร์รี อองรี (175 ประตู) และ เซร์คิโอ อเกวโร่ (184 ประตู) แข้งวัย 32 ปี ตามหลังดาวซัลโวชาวอาร์เจนติน่าเพียง 20 ประตู มีโอกาสจะแซงหน้า อเกวโร่ ในฐานะนักเตะต่างชาติที่ยิงประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก 

ท็อป 10 นักเตะแอสซิสต์สูงสุดในพรีเมียร์ลีก
ใน 5 จาก 7 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ในพรีเมียร์ลีก ซาล่าห์ สร้างโอกาสทำประตูได้มากกว่า 10 ประตู ปัจจุบัน ซาล่าห์ ทำไปแล้ว 74 แอสซิสต์ เท่ากับ แอชลีย์ ยัง และ เธียร์รี อองรี โดยเกือบจะเข้าใกล้ เท็ดดี้ เชอริงแฮม และ คริสเตียน เอริคเซ่น ที่ทำได้ 76 แอสซิสต์ และหากทำได้สำเร็จ จะมีโอกาสขยับแซง เดวิด เบ็คแฮม (80) และขึ้นไปอยู่อันดับ 10 ของรายชื่อตลอดกาล

นักเตะยิงประตูและแอสซิสต์มากที่สุดในเกมพรีเมียร์ลีก
ซาล่าห์ ทำประตูและแอสซิสต์ใน 34 เกมพรีเมียร์ลีก มีเพียง เวย์น รูนี่ย์ เท่านั้นที่ทำได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก (36) เมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้ จะต้องแอสซิสต์อีกเพีย 3 เกมเท่านั้นในขณะที่ยังยิงประตูได้ด้วย ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่จะคาดการณ์ว่าสถิตินี้จะตกเป็นของราชาแห่งอียิปต์ในไม่ช้า

ผู้ชนะเกมในพรีเมียร์ลีก
เกมล่าสุดที่ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 ซาล่าห์ ยิงประตูชัยได้เป็นลูกที่ 48 ในพรีเมียร์ลีก โดยมีผู้เล่นเพียง 5 คนที่ยิงประตูได้มากกว่าในประวัติการแข่งขันรายการนี้ สถิติดังกล่าวเป็นของ อลัน เชียเรอร์ ยิงประตูชัยได้ 68 ลูก ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล เหลือเกมอีก 28 นัดในฤดูกาลนี้ นั่นหมายความว่า ซาล่าห์ จะต้องยิงประตูชัยให้ได้ 21 ลูกก่อนสิ้นสุดฤดูกาล แม้ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มีโอกาสเป็นไปได้

นักเตะคนแรกยิง 50 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกให้กับสโมสรเดียวในอังกฤษ 
ลิเวอร์พูลมีผลงานที่ดีในแชมเปี้ยนส์ลีกและยังคงรักษามาตรฐานได้หลังจากลงเล่นไป 3 นัดร่วมกับ แอสตัน วิลล่า สำหรับ ซาล่าห์ ยิงไป 1 ประตู ทำให้รวมเป็น 45 ประตู โดย 42 ประตูเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เล่นให้กับ ลิเวอร์พูล นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับเขา

ดาวยิงหงส์แดง เป็นเจ้าของสถิติผู้ทำประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกสูงสุดให้กับสโมสรในอังกฤษอยู่แล้ว แต่มีผู้เล่นเพียง 6 คนเท่านั้นที่ยิงได้ 50 ประตูให้กับสโมสรเดียว ได้แก่ โธมัส มุลเลอร์ (54 ประตู – บาเยิร์น มิวนิค), ราอูล กอนซาเลซ (66 ประตู – เรอัล มาดริด), โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (69 ประตู – บาเยิร์น มิวนิค), คาริม เบนเซม่า (78 ประตู – เรอัล มาดริด), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (105 ประตู – เรอัล มาดริด) และ ลิโอเนล เมสซี่ (120 ประตู – บาร์เซโลน่า)

ซาล่าห์ ต้องการอีกเพียง 8 ประตูเท่านั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำได้ เนื่องจากลิเวอร์พูลยังมีเกมให้ลงเล่นอีก 5 นัดในรอบลีก การผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์จะทำให้ ซาล่าห์ มีโอกาสมากขึ้นในการเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ครบ 50 ประตูให้กับสโมสรเดียวในอังกฤษ