‘เนฟ’ เชื่อหงส์เจองานใหญ่แน่หากปล่อยสามแข้ง

แกรี่ เนวิลล์ ให้ความเห็นว่า หาก ลิเวอร์พูล ต้องเสียตัวสามสตาร์ไปในช่วงซัมเมอร์นี้ พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับงานหนักในการหาคนมาแทนที่ทั้งสามคนที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 250 ล้านปอนด์

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Mail Sport รายงานว่า เรอัล มาดริด มั่นใจว่าจะคว้าตัว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ไปร่วมทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยแหล่งข่าวในสเปนเผยว่าการย้ายทีมใกล้เสร็จสิ้นแล้ว

เนื่องจากกองหลังรายนี้จะหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ เช่นเดียวกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ทำให้เขาจึงตกเป็นข่าวกับยักษ์ใหญ่ของสเปนมาอย่างต่อเนื่อง

ทางด้าน ลิเวอร์พูล ยังไม่มีคำยืนยันใด ๆ เกี่ยวกับอนาคตของนักเตะทั้งสามรายของพวกเขา โดย อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีแนวโน้มที่จะย้ายออกจากทีมมากที่สุด

ในรายการพ็อดแคสต์ Stick to Football โดย Sky Bet เนวิลล์ กล่าวว่า “หลังจบฤดูกาล ลิเวอร์พูล จะเสียเปรียบอย่างมากหากนักเตะทั้งสามคนนั้น (เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์) เลือกย้ายออกไปแบบฟรีๆ”

‘พวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะหาคนมาแทนที่พวกเขาหรอก และคุณอาจบอกได้ว่ามูลค่าของพวกเขาทั้งสามนั้นอาจสูงถึง 250 ล้านปอนด์”

“เรากำลังพูดถึงกองหน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป กองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป และแบ็กขวาที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป”

“แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะเก่งเรื่องการสรรหานักเตะ แต่นี่ก็ถือเป็นช่องว่างมูลค่ากว่า 250 ล้านปอนด์ พวกเขาเก่งเรื่องการสรรหาผู้เล่นและพวกเขาอาจหาคนเข้ามาแทนที่ได้ แต่สำหรับ อาร์เน่อ สล็อท แล้ว เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสมากสำหรับเขา”

เนวิลล์ ยังโจมตีไปยัง FSG เจ้าของสโมสร ลิเวอร์พูล กับการจัดการกับสถานการณ์นี้

“ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรเดียวที่แม้ผู้เล่นกำลังจะหมดสัญญาแต่พวกเขาก็ยังยังโอเคกับเรื่องพวกนี้อยู่ แต่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้อธิบายเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเราก็โอเคตามนั้น”

“ผู้เล่นที่ดีที่สุดสามคนในโลกมีสัญญาที่กำลังจะหมดลง แต่คนบอกกันว่า ลิเวอร์พูล ก็ทำหน้าที่จัดการเรื่องนั้นได้ดีมาก – โทษทีนะ ผมยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้”

“กับ เทรนต์ มันเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะกำลังเจอกับวุ่นวายใด ๆ ในการหารือใด ๆ ก็ตาม”

“หากคุณเป็นเจ้าของสโมสรและคุณดูผลงานของ เทรนต์ เมื่อสองปีก่อน แม้ว่าคุณจะมีปัญหาในแผนกกีฬาของคุณ คุณมองดูเขาแล้วต้องคิดได้ว่า ‘เราต้องต่อสัญญากับเขา เขาเป็นคนของเรา’”