เจาะ5ประเด็นน่าสนใจ! เกม ‘ช้างศึกตกมัน’ถล่มทุบสถิติ

มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน?

11 ตัวจริงทีมชาติไทย มาซาทาดะ อิชิอิ จัด เอา นิโคลัส มิคเกลสัน โยกไปเล่นแบ๊กซ้าย เหมือนที่เล่นกับ โอบี โอเดนเซ ส่วน เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด แบ๊กขวา

หน้าตาแบบนี้

ผู้รักษาประตู : กรกฎ พิพัฒน์นัดดา
เซ็นเตอร์ : พรรษา เหมวิบูลย์(กัปตันทีม), ศฤงคาร พรมสุภะ
แบ๊กขวา : เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด
แบ๊กซ้าย : นิโคลัส มิคเกลสัน
กองกลาง : อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ, วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ
ตัวรุก : เบนจามิน เดวิส
ริมเส้นขวา : ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
ริมเส้นซ้าย : อนันต์ ยอดสังวาลย์
กองหน้า : พาตริก กุสตาฟส์สัน

11 ตัวจริง นั้นจากชุดที่มารายงานตัววันแรก เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 9 คน ได้ลงตัวจริงถึง 8 คน คือ กรกฎ, ศฤงคาร, เจมส์, อัครพงษ์, วิลเลียม,เบนจามิน, อนันต์ และ พาตริก จะมีแค่ ทิตาธร อักษรศรี ที่ไม่ได้ลง

ขณะที่ นิโคลัส กับ ศุภณัฏฐ์ ชุดที่ 2 ที่ตามมาวันที่ 3 ธ.ค. ก็ได้ลงตัวจริง รวมทั้ง พรรษา ที่มาวันที่ 4 ธ.ค.

นักเตะ 2 ชุดหลัง จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด(มาวันที่ 5 ธ.ค.) กับ การท่าเรือ เอฟซี(มาวันที่ 6 ธ.ค.) นั้น มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่ได้ส่งลงสนามเลย โดยในรายของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี นั้นลงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะติดโทษแบน

เรียกว่า อิชิอิ อาจจะเลือกให้โอกาสคนที่อยู่กับทีมมานานกว่าได้ลงก่อน ขณะเดียวกันนักเตะ ทรู แบงค็อก กับ การท่าเรือ เพิ่งเตะ ก็ยังไม่ต้องรีบ

แถมคู่แข่งก็ไม่แข็งนัก

“ช้างศึก”เวอร์ชั่น”ตกมัน”

ไทยเพิ่งเตะอุ่นเครื่องเสมอลาว แบบโดนด่าจมหู ด้วยสไตล์หวานเย็น เล่นถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง

ติมอร์ กับลาว อาจคนละเบอร์กัน แต่ก็บทเรียนจากลาว ก็เป็นข้อคิดที่ดี ให้ มาซาทาดะ อิชิอิ สั่งช้างศึกที่กำลังห้าว เดินหน้าลุยแหลก เล่นเพรสซิ่งกดดันให้ ติมอร์ จ๋อยให้ได้

แล้วก็มายิงได้ไว ทิ้ง 2-0 ตั้งแต่นาทีที่ 17 ต่อด้วยโกล ติมอร์แจกอีก ก็เป็นอันจบข่าว ไหลเป็นท่อประปาแตก

ดาวรุ่งกระหายศึก

ด้วยโอกาสลงสนาม และคู่แข่งคนละชั้น และเครื่องร้อนตั้งแต่ต้นเกม ทำให้ดาวรุ่งพยายามเร่งเครื่องทำผลงาน

น่าเสียดาย เบนจามิน ที่แฟนบอลอยากเห็นฟอร์ม ยิงไปได้ 2 ประตูแล้ว เจ็บโดนเปลี่ยนออก ขณะที่ เสกสรรค์ ราตรี ลงมาเลยรับช่วงต่อ

ส่วน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก็มุ่งมั่น จะยิงให้ได้มากๆ

โดยรวมทีมไทยเล่นไม่มีแอ็ค ไม่มีผ่อน ยิงได้แล้ว ยิงอีก เป็นทัศนคติที่ถูกต้อง การแสดงความเคาระต่อคู่ต่อสู้ที่สุด คือเล่นให้เต็มที่ที่สุด

และแน่นอนมันส่งผลต่อสภาพฟอร์มโดยรวมในระยะยาวของไทยด้วย

สถิติยิงกระจุย

10 ประตูของไทย ไม่มีใครทำแฮตทริก

มาจาก เบนจามิน เดวิส 2, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา 2, เสกสรรค์ ราตรี 2, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย 2, พาตริก กุสตาฟส์สัน 1 และ นิโคลัส มิคเกลสัน 1

ทีมชาติไทย เคยทำสถิติชนะขาดที่สุดในอาเซียนคัพ คือถล่ม ติมอร์เลสเต ทีมนี้นี่แหละ 8-0 เมื่อปี 2004

นั่นหมายความว่า ทีมไทยทำลายสถิติตัวเองในรายการนี้ไปแล้ว

แต่สกอร์ที่ยิงเยอะที่สุดในอาเซียนคัพ ไทยยังไม่ทำลาย โดยเมื่อปี 2002 อินโดนีเซีย ถล่ม ฟิลิปปินส์ 13-1

ขณะเดียวกัน ถ้ารวมทุกรายการ สถิติที่ไทยยิงมากสุด คือชนะ บรูไน 10-0 เมื่อปี 1971

วันนี้ยิงทาบสถิติตัวเอง

และเป็นการยิงประตูมากสุดในรอบ 53 ปี!

เปิดตัวสวยก็สบายใจ

แม้คู่แข่งไม่แข็ง แต่นัดแรกนี้สำคัญ เนื่องจากทีมไทยเพิ่งโดนด่าจากผลเสมอลาว แถมการเก็บตัวซ้อมก็มากันขยักขย่อน

ถ้าเปิดหัวฝืด หรือเลวร้ายถึงขั้นไม่ชนะขึ้นมา นอกจากทำให้เล่นยากแล้ว ยังบ่อนทำลายจิตใจ

ตรงกันข้าม ชนะสวยๆ แบบนี้ จิตใจมา ลบผลงานเสมอลาวไปได้สนิท บรรยากาศดี

ที่สำคัญเราได้พักอีก 5 วัน มีเวลาได้ประกอบร่าง ได้ 3 ราชบุรี, ได้ สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา แล้วรอลุ้น เบนจามิน ก่อนเล่นนัด 2 เปิดบ้านพบ มาเลเซีย วันที่ 14 ธ.ค. ก่อนเยือน สิงคโปร์ วันที่ 17 ธ.ค. และเล่นในบ้านพบ กัมพูชา 20 ธ.ค.

ยิ่ง มาเลเซีย ออกเสมอ กัมพูชา เฉลี่ยแต้มกันไป ยิ่งเป็นผลดีกับไทย

ถือว่าเปิดตัวสดใส แก้โจทย์คาใจเรื่องฟอร์มการเล่น ข้อกังขาศักยภาพนักเตะ

มีโอกาสไปได้ดี

รอบแรกไม่น่ามีปัญหา แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจ

บอลภูมิภาคนี้ ของจริงต้องไปรอดูรอบรองฯ รอบชิงฯ

อาเซียนเล่นเหย้า-เยือน ปัจจัยชี้ผลแพ้-ชนะมีเยอะ เราจะยิงมาสักเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครกลัวใครอยู่แล้ว.

*** วุฒินล ***