“พาลเมอร์” โชว์โหด ทั้งยิงทั้งแอสซิสต์ ช่วยทีมชนะ “นิวคาสเซิ่ล”

คืนวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา “เชลซี” เปิดรังเหย้าสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับทีมเยือน “นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด” ซึ่งสถานการณ์ของทั้ง 2 ทีมไม่ค่อยดีนัก เพราะอยู่ในระดับกลางตาราง ไม่มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ และก็แทบไม่มีสิทธิ์ในการไปเล่นในถ้วยยุโรปแล้ว เนื่องจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เหลือเพียงแค่ไม่กี่นัด ก็สิ้นสุดฤดูกาล 2023/2024

โดยออกสตาร์ทเกมได้เพียงแค่ 6 นาที ก็เป็นฝั่งเจ้าบ้านอย่าง “เชลซี” ที่ทำประตูขึ้นนำได้ไว จากนักเตะตัวความหวังของทีม ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น “โคล พาลเมอร์” นั่นเอง ที่ช่วยให้ทีมขึ้นนำกุมความได้เปรียบไว้ก่อน แต่ทว่าช่วงท้ายของครึ่งแรก นาทีที่ 43 ทีมเยือนอย่าง “นิวคาสเซิล” ก็ตีเสมอได้สำเร็จจาก “อเล็กซานเดอร์ อิซัค”

และเมื่อเริ่มครึ่งเวลาหลัง ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เชลซีก็ทำประตูทิ้งห่างเป็น 2 – 1 ได้อีกครั้ง ในนาทีที่ 57 โดยก็เป็นเจ้าเก่าเจ้าเดิม “โคล พาลเมอร์” ปั่นโค้งๆ ด้วยเท้าซ้ายส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย!! ถัดมาในนาทีที่ 76 เจ้าบ้านก็ซัดประตูเข้าอีกครั้งเป็น 3 – 1  จาก “มิไคโล มูดริค” ลากบอลแหวกเข้าไปทำประตู

จนถึงช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 “นิวคาสเซิ่ล” ตีตื้นขึ้นมากเป็น 3 – 2 จากผลงานของ “เจค็อบ เมอร์ฟี” และก็หมดเวลาการแข่งขันที่สกอร์นี้ เชลซีเฉือนชนะไป 3 – 2 เก็บแต้มเพิ่มเป็น 39 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 11 ส่วนฝั่งทาง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับที่ 10 และยังมี 40 คะแนนเท่าเดิม

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.thairath.co.th/sport/eurofootball/premierleague/2769742