สเปอร์ส ของกุนซือ แอนจ์ พอสเตโคกลู ทำเซอร์ไพรส์เมื่อส่ง มิกกี้่ ฟาน เดอ เฟ่น และ คริสเตียน โรเมโร่ ที่หายเจ็บกลับมายืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ ด้าน เปโดร ปอร์โร่ และ ซน ฮึง-มิน ที่เกมกลางสัปดาห์ที่แพ้บอร์นมัธ ถูกดร็อปได้กลับมาสตาร์ตตัวจริงเช่นกัน
เอ็นโซ่ มาเรสก้า เปลี่ยนทีมเชลซี 7 ตำแหน่งจากเกมชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-1 เมื่อกลางสัปดาห์ โดย โรเบิร์ต ซานเชซ, เบอนัวต์ บาเดียชิล, , ลีวาย โคลวิลล์,โรเมโอ ลาเวีย, เปโดร เนโต้, เจดอน ซานโช่ และ นิโกลัส แจ็คสัน กลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด
ผลบอลอาเซียน คัพ 2025 ไทย จัดหนักถล่ม ติมอร์ เลสเต 10-0 ประเดิมชัยนัดแรก
สื่อผู้ดีตีข่าว “ซาล่าห์” เตรียมเซ็นสัญญาใหม่ 2 ปี กับลิเวอร์พูล
นาทีที่ 5 สเปอร์ส มาขึ้นนำอย่างรวดเร็ว มาร์ก กูกูเรย่า ไปพลาดปล่อยให้ เบรนแนน จอห์นสัน ฉกไปก่อนจะเปิดจากทางขวาไปให้ โดมินิก โซลันกี้ ที่วิ่งปาดหน้า ลีวาย โคลวิลล์ และยิงเข้าไป เป็นประตูที่ 5 ของตัวเองในฤดูกาลนี้
นาทีที่ 11 มาร์ก กูกูเรย่า มาพลาดลื่นอีกครั้ง และเป็น เบรนแนน จอห์นสัน ที่ตัดบอลได้ก่อนจ่ายให้ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ยิงลอดขา โรเมโอ ลาเวีย เข้าเสาแรกไป
นาทีที่ 15 คริสเตียน โรเมโร่ ที่แม้จะกลับมาลงได้ในเกมนี้แต่สุดท้ายเจ็บฝืนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ ราดู ดรากูชิน ต้องถูกส่งลงมาแทน
นาทีที่ 18 เชลซี ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 เจดอน ซานโช่ เลี้ยงตัดจากทางซ้ายก่อนยิงด้วยขวาระยะ 20 หลาบอลพุ่งชนเสาเหลี่ยมในเข้าไป และเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
นาทีที่ 24 หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนโยกหาช่องยิงด้วยขวา แต่บอลโค้งไม่พอหลุดกรอบไปนิดเดียว
นาทีที่ 32 สเปอร์ส ยังไม่โดนตีเสมอเมื่อ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ โชว์ดับเบิ้ลเซฟ ลูกยิงของ โคล พาลเมอร์ กับ เปโดร เนโต้ เอาไว้ได้
นาทีที่ 34 จากจังหวะเตะมุม สเปอร์ส เกือบได้ประตูที่ 3 แต่ ปาป ซาร์ ขึ้นโหม่ง บอลมันเช็ดคานออกไป
ช่วง 5 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก เชลซี พยามยามเร่งเพื่อหวังเอาประตูตีเสมอ แต่เจาะไม่เข้า จบครึ่งแรก สเปอร์ส นำ 2-1
กลับมาครึ่งนาทีที่ 48 เชลซี มีฌอกาสก่อน เจดอน ซานโช่ ได้ยิงด้วยขวา แต่ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ยังเซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 52 เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ปั่นด้วยขวาบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 57 เชลซี ที่ครองบอลมากกว่ามาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากลูกยิงของ มาโล กุสโต้ ตัวสำรอง แต่ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ยังปัดทิ้งออกไปได้
นาทีที่ 59 สเปอร์ส มาเสียจุดโทษ เมื่อ อีฟส์ บิสซูม่า ไปทำฟาวล์ มอยเสส ไกเซโด้ โดยเป็น โคล พาลเมอร์ ที่สังหารไม่พลาด เชลซี ตีเสมอ 2-2 ในนาที 61 และเป็นประตูที่ 10 ของอดีตแข้งแมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้
นาทีที่ 68 ซน ฮึง มิน มีโอกาสทอง เมื่อหลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนเอียงตัวยิงแต่ยิงหลุดเสาสองออกไปชนิดที่เจ้าตัวเสียดายอย่างแรง
นาทีที่ 73 เชลซี มาพลิกขึ้นนำ 3-2 จาก เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ยิงด้วยซ้ายจากจังหวะที่บอลติดบล็อกมาเข้าทางตุงตาข่าย
นาทีที่ 83 ปาป ซาร์ ไปอัด โคล พาลเมอร์ สเปอร์ส เสียจุดโทษอีกครั้ง และเป็น โคล พาลเมอร์ ที่สังหารไม่พลาด เป็นประตูที่ 11 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ เชลซี นำ 4-2 ในนาที 84
ช่วงทดเจ็บ สเปอร์ส มาได้ประตูไล่มาเป็น 3-4 ในนาที 90+7 จาก ซน ฮึง มิน แต่สุดท้ายไล่ไม่ทันจบเกม เชลซี บุกมาชนะ สเปอร์ส 4-3 ทำให้มีเพิ่มเป็น 31 คะแนน แซงอาร์เซน่อล กลับมาอยู่อันดับ 2 โดยแต้มตามหลังลิเวอร์พูล 4 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วนสเปอร์ส ไม่ชนะ 4 เกมติด และเป็นการแพ้ในลีก 2 เกมหลัง มี 20 แต้ม หล่นไปอยู่อันดับ 11
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
สเปอร์ส (4-3-3) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – เปโดร ปอร์โร่, มิกกี้่ ฟาน เดอ เฟ่น, คริสเตียน โรเมโร่, เดสตินี่ อูโดกี – ปาป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า, เดยัน คูลูเซฟสกี้, อีฟส์ บิสซูม่า, – เบรนแนน จอห์นสัน, โดมินิก โซลันกี้, ซน ฮึง-มิน
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – มอยเสส ไกเซโด้, เบอนัวต์ บาเดียชิล, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – เปโดร เนโต้ , โคล พาลเมอร์, เปเจดอน ซานโช่ – นิโกลัส แจ็คสัน
Scorefootball เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล การแข่งขันทุกลีค ให้บริการทั้ง ผลบอลสด ดูบอลสด ไฮไลท์บอล และทีเด็ดบอล สามารถเช็คผลบอลสดวันนี้ และอัตราต่อรอง แสดงผลเป็นตารางพร้อมภาษาไทย เช็คง่าย พร้อมให้บริการดูบอลสดออนไลน์ แบบ Full HD คมชัด ไม่มีกระตุก และยังมีไฮไลท์บอล ครบทุกลีค อีกทั้งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับทีเด็ดบอล เทคนิควิเคราะห์ผลบอลครบทุกคู่ ทุกการแข่งขัน การันตีแม่นทุกคู่
Copyright scorefootball © 2024. สงวนลิขสิทธิ์.