ผลบอลพรีเมียร์ลีก สเปอร์ส บุกถล่ม แมนฯ ซิตี้ แมดดิสัน ซัดเบิ้ลวันเกิด : PPTVHD36

เป๊ป กวาดิโอล่า ที่เพิ่งต่อสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ ออกไปอีก 2 ปี ผลงานล่าสุดแพ้ 4 เกมรวด เกมนี้ไม่มี มัตเตโอ โควาซิซ ที่เจ็บทำให้ดัน ริโก้ ลูอิส ไปยืนมิดฟิลด์แทน ฟิล โฟเด้น ผ่านความฟิตได้สตาร์ต โดยมี เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยืนหน้าเป้า

อังเก้ ปอสเตโคกลู พาสเปอร์ส แพ้ใน 2 เกมหลังสุด เกมนี้ใช้ เบน เดวิส ยืนเซ็นเตอร์กับ ราดู ดรากูชิน หลังจาก คริสเตียน โรเมโร่ เจ็บ แดนกลางไม่มี โรดริโก้ เบนทานคูร์ ที่เริ่มต้นโทษแบน 7 นัด โดย อีฟส์ บิสซูม่า ลงเล่นแทน ส่วน เจมส์ แมดดิสัน ได้โอกาสเริ่มเกมก่อน เบรนแนน จอห์นสัน

ผลจับสลากช้าง เอฟเอ คัพ รอบ 32 ทีม บุรีรัมย์ งานเบา – บียู ดวล หนองบัว

กาลาตาซาราย ใส่ชื่อ “ซน” หวังดึงเสริมเกมรุกตลาดปีใหม่ 2025

AFP/Paul ELLIS
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พยายามสปีดหนีแนวรับสเปอร์ส

นาทีที่ 5 ยอสโก้ กวาร์ดิโอล จ่ายให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แต่งนานไปหน่อยก่อนยิงไปแฉลบ  เบน เดวิส ออกหลังได้แค่เตะมุม

นาทีที่ 11 ซาวินโญ่ จ่ายให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงเร็วด้วยซ้ายตามน้ำ แต่ กูเยลโม่ วิคาริโอ ยังใช้เท้าเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาทีที่ 13 เดยัน คูลูเซฟสกี้ เปิดจากทางซ้ายไปให้ ข้าม จอห์น สโตน ไปให้ เจมส์ แมดดิสัน กระโดดยิงด้วยซ้ายเข้าไปให้ สเปอร์ส บุกนำ 1-0 และเป็นการยิงฉลองวันเกิดครบ 28 ปีพอดี โดยแข้งสเปอร์ส คนหลังสุดที่ยิงในวันเกิดคือ คริสเตียน อีริคเซ่น ในปี 2016

นาทีที่ 18 ซน ฮึง-มิน ปั่นด้วยขวา เกือบโค้งเสียบเสาสองดีที่  เอแดร์ซอน ยังบินปัดทิ้งออกไปได้ 

นาทีที่ 20  เจมส์ แมดดิสัน ยิงให้ สเปอร์ส ขยับหนีเป็น 2-0 หลังทำชิ่งกับ ซน ฮึง มิน ก่อนที่มารับบอลและยกข้าม เอแดร์ซอน เข้าไปอย่างเหนือชั้น

นาทีที่ 28 โดมินิค โซลันกี้ รับบอลจ่ายหักข้อมาจาก ซน ฮึง มิน ก่อนยิงถูก  เอแดร์ซอน ปัดปลายมือเอาไว้ได้

นาทีที่ 36 ซาวินโญ่ พยายามยิงด้วยซ้ายบอลเรียดต่ำแต่ลูกไม่แรงและไปตรงตัว กูเยลโม่ วิคาริโอ รับกินสบาย หลังจากนั้น วิคาริโอ ก็มาเซฟลูกที่จะกระดกข้ามหัวของ ซาวินโญ่ ได้อีกครั้งเช่นกัน

ช่วงท้ายครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ พยายามบดทวงประตูตีไข่แตก แต่ทำไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก สเปอร์ส บุกมานำ 2-0 

กลับมาครึ่งหลัง ปรับแนวรับด้วยการส่ง เนธาน อเก้ ลงไปแทน จอห์น สโตน

นาทีที่ 53  สเปอร์ส หนีห่างเป็น 3-0 เป็นจังหวะที่  เดยัน คูลูเซฟสกี้ ทิ้งบอลไปที่ว่างทางซ้ายให้ โดมินิค โซลันกี้ จ่ายกลับหลังมาให้  เปโดร ปอร์โร่ ยิงไม่เหลือ

นาทีที่ 60  อีฟส์ บิสซูม่า ไปจับบอลลั่นมาเข้าทาง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยิงด้วยซ้ายบอลไปชนคาน 

นาที 66 สเปอร์ส ยังไม่ได้ประตูที่ 4 เมื่อ เดยัน คูลูเซฟสกี้ ได้จังหวะสวนกลับแต่ ยิงไปถูก เอแดร์ซอน ปัดเอาไว้ได้  

นาทีที่ 73 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนทีเดียว 2 คน โดนส่ง แจ็ค กรีลิช และ เควิน เดอ บรอยน์ ลงไปแทน  ซาวินโญ่ กับ  ริโก้ ลูอิส

นาทีที่ 77 อิลคาย กุนโดกัน ยิงยัดเสาแรกดีที่ กูเยลโม่ วิคาริโอ ยังเซฟไว้ได้

นาทีที่ 79  แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้ประตูตีไข่แแตก เมื่อ กูเยลโม่ วิคาริโอ มาโชว์ซูเปอร์เซฟปัดมือเดียวจากลูกยิงของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาที 90+3 สเปอร์ส มาได้ประตูปิดกล่องจากการประสานงานของ 2 ตัวสำรอง เป็นจังหวะที่ ติโม แวร์เนอร์ลากมาเกือบสุดเส้นทางซ้ายก่อนเปิดมาที่เสาสองให้ เบรนแน่น จอห์นสัน ชาร์จเข้าไป จบเกม แมนฯ ซิตี้ แพ้ สเปอร์ส 0-4 และถือเป็นการแพ้เป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันในทุกรายการพร้อมหยุดสถิติไม่แพ้ในบ้านตัวเองกว่า 2 ปีลงด้วย โดย สเปอร์ส เตะ 12 นัด มี 19 แต้ม ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 ส่วน แมนฯ ซิตี้ ยังอยู่อันดับ 2 เหมือนเดิม มี 23 แต้ม ตามหลัง ลิเวอร์พูล  5 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด โดยเกมพรีเมียร์ลีกนัดหน้าทั้งคู่จะพบกัน ส่วน สเปอร์ส จะเปิดบ้านพบ ฟูแล่ม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตน, มานูเอล อคานจี, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ริโก้ ลูอิส, อิลคาย กุนโดกัน – ซาวินโญ่,เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, ฟิล โฟเด้น 
สเปอร์ส (4-2-3-1) : กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่,  เบน เดวิส, ราดู ดรากูชิน, เดสตินี่ อูโดกี – ป๊าป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า – เดยัน คูลูเซฟสกี้, เจมส์ แมดดิสัน, ซน ฮึง-มิน – โดมินิค โซลันกี้