ผลบอลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล บุกชนะคริสตัล พาเลซ นำจ่าฝูงต่อไป : PPTVHD36

โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือคริสตัล พาเลซ ปรับทีมจากเกมล่าสุดที่แพ้เอฟเวอร์ตัน 2 จุด โดย เทรโวห์ ชาโลบาห์ กลับมาสตาร์ตครั้งแรกในเกมรับ และดัน เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์ ไปแทน ไดจิ คามาดะ ที่ถูกดร็อปเป็นสำรอง ส่วน อิสไมล่า ซาร์ แทนที่ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ในเกมรุก

อาร์เน่อ สล็อต ปรับทีมลิเวอร์พูล 4 จุดจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะ โบโลญญ่า คอสตาส ซิมิกาส แทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แดนกลาง เคอร์ติส โจนส์ แทน โดมินิค โซบอสซ์ไล ด้าน โคดี้ กัคโป แทน หลุยส์ ดิอาซ  และ ดีโอโก้ โชต้า แทน ดาร์วิน นูนเญซ

 

“อาร์เน่อ” เผยปรับกฎเข้มงวดเพียงข้อเดียวหลังคุมลิเวอร์พูลต่อจากคล็อปป์

ลือหนัก “เปแอสเช” เตรียมยื่นข้อเสนอคว้าตัว “ซาล่าห์” เสริมแกร่งแนวรุก

พรีเมียร์ลีก AFP/Glyn KIRK /
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ พยายามเข้าบล็อกลูกยิงของ อิสไมล่า ซาร์

เกมผ่านเพียง 22 วินาที อิสไมล่า ซาร์ จ่ายจากทางขวาไปให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ทว่าคริสตัล พาเลซ ไม่ได้ประตูขึ้นนำ เนื่องจาก  เอ็นเคเทียห์  อยู่ในตำแหน่งลำหน้า

นาทีที่ 9 ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ โคดี้ กัคโป จ่ายให้ ดีโอโก้ โชต้า ที่วิ่งตัดหน้า เทรโวห์ ชาโลบาห์ จิ้มบอลง่ายๆ ผ่านมือ ดีน เฮนเดอร์สัน

หลังได้ประตูนำผ่าน 20 นาที ลิเวอร์พูล ยังครองเกมได้มากกว่า ขณะที่ คริสตัล พาเลซ เรียกว่าไม่มีโอกาสพาบอลขึ้นมาลุ้นเลย

นาทีที่ 29 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เติมขึ้นมากดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบเล่นเอา ดีน เฮนเดอร์สัน ต้องเซฟ

นาทีที่ 34  ดีโอโก้ โชต้า ยังไม่ได้ใส่สกอร์เพิ่มให้ตัวเอง เมื่อจังหวะยิงนั้นจั่วลมโดนไม่เตะบอลหลุดเป้าไปเยอะ

ช่วงทดเจ็บนาที 45+2  คริสตัล พาเลซ พลาดโอกาสทำประตูตีเสมอ มักซ็องซ์ ลาครัวซ์ ที่ จ่ายจากแดนสองไปให้ อิสไมล่า ซาร์ ได้กดด้วยขวา แต่ อลีสซง เบ็คเกอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟอย่างยอดเยี่ยม จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล บุกนำ 1-0  

กลับมาครึ่งหลัง อาร์เน่อ สล็อต ส่ง โดมินิค โซบอสซ์ไล ลงไปแทน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

เกมผ่าน 10 นาทีครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล สร้างโอกาสจบได้มากกว่า แต่ก็ยังไม่มีสกอร์เพิ่มเติมเกิดขึ้น

นาทีที่ 59 คริสตัล พาเลซ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ไทริค มิตเชลล์ และ วิลล์ ฮิวจ์ส ลงไปแทน  อดัม วอร์ตัน

คริสตัล พาเลซ น่าจะได้ประตูตีเสมอ ในนาที 63 แต่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยิงไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่เซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 66 โดมินิค โซบอสซ์ไล ได้ตั้งป้อมกดเน้นๆ แต่ ไปตรงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน รับกินสบาย

อีก 3 นาทีต่อมา เอเบเรชี่ เอเซ่ ได้กดด้วยซ้ายเน้นๆ เล่นเอา อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องปัดทิ้ง และอีกจังหวะที่ เทรโวห์ ชาโลบาห์  ดีดลูกหลัง อลีสซง ต้องชกทิ้งเพื่อความปลอดภัยเช่นกัน 

พรีเมียร์ลีก AFP/Glyn KIRK
9 อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกหลังเจ็บแฮมตริง

นาทีที่ 79 อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกหลังเจ็บแฮมตริง และส่ง วิเตสซ์สลาฟ ยารอส ผู้รักษาประตูมือ 3 ที่อยู่กับทีมเยาวชนลงแทนเนื่องจาก ควีวิน เคลเลเฮอร์ มือ 2 ป่วยไม่มีชื่อในเกมนี้

นาทีที่ 84 พาเลซ ได้โอกาสโต้กลับมา และมีลุ้นได้ประตูตีเสมอสุดๆ แต่ เอเบเรชี่ เอเซ่ เอียงตัวยิงด้วยขวาไปตรงตัว วิเตสซ์สลาฟ ยารอส

ช่วงทดเจ็บ 6 นาที ลิเวอร์พูล พยายามบดใส่เพื่อหวังประตูที่ 2 ปิดกล่องแต่ทำไม่ได้ ขณะที่ พาเลซ ก็เกือบตีเสมอ แต่ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า เข้าถึงบอลช้ากว่า วิเตสซ์สลาฟ ยารอส  จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ พาเลซ 1-0  มีเพิ่มเป็น 18 แต้ม นำจ่าฝูง 2 สัปดาห์ในช่วงพักเบรกทีมชาติ ส่วนคริสตัล พาเลซ ยังไม่ชนะในฤดูกาลนี้ มี 3 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 18

ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
คริสตัล พาเลซ (3-4-3) : ดีน เฮนเดอร์สัน – เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ค เกฮี, มักซ็องซ์ ลาครัวซ์ – ดาเนียล มูนญอซ, อดัม วอร์ตัน, เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์, ไทริค มิตเชลล์ –  อิสไมล่า ซาร์, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, เอเบเรชี่ เอเซ่
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิกาส -เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โคดี้ กัคโป – ดีโอโก้ โชต้า

 

Copyright scorefootball © 2024. สงวนลิขสิทธิ์.