คริส เวิร์ตส์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการสมาคมสโมสรยุโรป (ECA) ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตลาดซื้อขายในช่วงซัมเมอร์นี้ปิดตัวลงในตอนสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ว่ามีสาเหตุมาจากการแทรกแซงของ บาร์เซโลน่า

ตามรายงานของ The Mirror ระบุว่า พรีเมียร์ลีก ได้จับมือกับลีกใหญ่ๆ อื่นๆ ในยุโรปผ่านสมาคมสโมสรยุโรป (ECA) เพื่อปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ในวันที่ 15 สิงหาคม ปีหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่ฤดูกาลหน้าจะเริ่มขึ้น

รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า คาดว่าจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับแผนดังกล่าวก่อนสิ้นปี 2024 โดยกำหนดวันเปิดตลาดซื้อขายนักเตะสำหรับตลาดกลางฤดูกาลไว้แล้วในเดือนมกราคม

พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ ลาลีกา บุนเดสลีกา ลีกเอิง และเซเรียอา จะเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในวันที่ 1 มกราคมตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ลีกทั้ง 5 แห่งจะปิดตลาดซื้อขายกลางฤดูกาลของพวกเขาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เพื่อส่งเสริมให้สอดคล้องกันทั้งระบบ

เฟอร์ราน โซเรียโน ซีอีโอของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ปีเตอร์ ลอว์เวลล์ ประธานสโมสรของ เซลติก ต่างก็เป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ ECA ร่วมกับ คริส เวิร์ตส์ อดีตผู้อำนวยการ ซันเดอร์แลนด์

ทางด้าน เวิร์ตส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นบุคคลสำคัญใน เอเรดิวิซี ยืนยันว่าพวกเขาได้มีการวางแผนไว้แล้ว และก่อนหน้านี้ถูกขัดขวางเนื่องจากการแทรกแซงของ บาร์เซโลน่า

เขากล่าวว่า “สโมสรต่างๆ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้ ECA ทั้งหมดตัดสินใจเรื่องนี้ ปีหน้าตลาดซื้อขายนักเตะจะต้องปิดตัวลงในวันที่ 15 สิงหาคม ก่อนที่ลีกจะเริ่มต้น”

“ทุกคนเริ่มหงุดหงิดและรำคาญใจกับความจริงที่ว่านักเตะยังคงถูกขายออกไปเป็นเวลาหลายสัปดาห์ในขณะที่การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น”

“สโมสรใหญ่แห่งหนึ่งในสเปนสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในปีนี้ ซึ่งก็คือสโมสร บาร์เซโลนา”

“เนื่องจากปัญหาทางการเงินของพวกเขา พวกเขาจึงไม่สามารถเสริมทัพได้จนกระทั่งช่วงท้ายๆ ดังนั้นพวกเขาจึงแทรกแซงความเห็นชอบของ ‘บิ๊กไฟว์'”