โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือ คริสตัล พาเลซ ชี้ทีมควรได้จุดโทษจังหวะ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ดึงแขน มาร์ค เกฮี ช่วงครึ่งหลังเกมแพ้ ลิเวอร์พูล คารัง 1-0
พาเลซ เล่นในบ้านโดนยิงนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 9 แล้วช่วงกลางครึ่งหลังเกิดจังหวะปัญหา วางบอลยาวเข้าเขตโทษ เกฮี กำลังจะเข้าชาร์จพัวพันกับ ฟาน ไดจ์จ จนล้ม
ไซม่อน ฮูเปอร์ ไม่เป่าจุดโทษโดยห้อง VAR ภายใต้ ดาวิด คู้ต ร่วมยืนยันพร้อมระบุเหตุผล “ฟาน ไดจ์ค ไม่ได้ดึงใส่คู่แข่งแบบต่อเนื่อง และเป็นจังหวะที่ไม่ส่งผลต่อการเล่น”
อย่างไรก็ตาม คีธ แฮ็คเกตต์ อดีตเปา พรีเมียร์ ลีก คิดต่างไป: “ทุกคนเห็นได้ว่า ฟาน ไดจ์ค ดึงคู่แข่งอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นจังหวะที่ส่งผลต่อการเล่น”
“แน่นอนผู้ตัดสินสามารถผิดพลาด แต่การที่ VAR ไม่แทรกแซง คือเรื่องน่าสมเพช แถลงการณ์ซึ่งพวกเขาออกมา ยิ่งทำให้ทุกคนสับสน เพราะภาพช้าแสดงสิ่งที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง”
ตำนานนักเตะอย่าง โจ โคล ก็คิดว่าทีมเก่า ควรเสียจุดโทษชัดเจน เช่นเดียวกับ กลาสเนอร์ นายใหญ่ พาเลซ: “เราควรได้จุดโทษอย่างชัดเจน เกฮี ต้องการเล่นบอล และเขาก็โดน ฟาน ไดจ์ค ใช้สองมือดึงรั้งไว้”
“ยังไงก็ตาม เราต้องยอมรับคำตัดสิน ครึ่งแรกเราได้เห็นคุณภาพของ ลิเวอร์พูล แต่ครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้น เราสร้างโอกาสเพียงพอสำหรับตีเสมอ และนั่นช่วยสร้างความมั่นใจให้เรา”
อาร์เน่อ สล็อท นายใหญ่ฝั่ง “หงส์แดง” ถูกถามถึงจังหวะปัญหาเช่นกัน และมีมุมมองที่ต่างไปจากคู่แข่ง:
“จังหวะนี้บอลกำลังจะเข้ามือผู้รักษาประตูของเราอยู่แล้วและ เกฮี คงไม่สามารถไปถึงลูก หากผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ VAR คงไม่กลับคำตดสิน แต่สำหรับผม มันไม่ใช่จุดโทษ”
“เมื่อมองภาพรวมแล้ว ผมคิดว่าแฟน พาเลซ ไม่สามารถบ่นเกี่ยวกับผู้ตัดสิน เราต้องรอถึง 55 นาทีถึงได้ฟรีคิกครั้งแรก ตลอดทั้งเกมเราถูกจับฟาวล์ 15 ครั้งขณะที่พวกเขาโดนแค่ 2”
