กล้าขอกล้าให้? ไปไงมาไง ‘โค้ชอ้น’กลืนน้ำลาย ขอกลับมาคุมท่าเรือ

เพียงแค่ 9 วันเท่านั้น “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่ลาออกจากการเป็นกุนซือการท่าเรือ เอฟซี ก็ได้กลับมาทำหน้าที่เดิมอีกครั้ง

ย้อนไปวันที่ 2 พ.ย. 67 หลังเกมแพ้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด “โค้ชอ้น” ทำช็อก ประกาศลาออกจากตำแหน่ง โค้ชการท่าเรือ ทั้งที่สถานการณ์ก็ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำอะไรมากมาย อ้างความรับผิดชอบของตัวเอง ที่ผ่านมาผู้บริหารไม่เคยก้าวก่าย

รุ่งขึ้นวันที่ 3 พ.ย. การท่าเรือ มีแถลงการณ์ บอกว่าคิดไม่ถึงกับการตัดสินใจครั้งนี้เหมือนกัน โค้ชอ้นไม่เคยมาบอกก่อน พร้อมกับข้อความที่ค้อนข้างตำหนิการกระทำครั้งนี้ว่า การลาออกของ โค้ชอ้น ทำให้ทีม ‘ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก’ เพราะกำลังบินไปเตะ ACL ที่จีน หาโค้ชใหม่ไม่ทัน แต่ยอมรับการตัดสินใจ

จะหาโค้ชใหม่ต่อไป

ส่วน โค้ชอ้น ก็โพสต์อินสตาแกรม ในทำนองว่า ต้องการรับผิดชอบ ขอขอบคุณ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ อดีตประธานการท่าเรือ ที่พาเข้ามา

คือยืนยันย้ำว่า จะลาออก ขอรับผิดชอบเอง

ระหว่างนั้น โชคทวี พรหมรัตน์ ขัดตาทัพ คุมทีมไปแซงชนะ เจ้อเจียง ในบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ทู 2-1

ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวลือไปเรื่อยว่า โค้ชอ้น อาจไปตกลงปลงใจคุมทัพ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือ เมืองทอง ยูไนเต็ด

วงใน วงไหน มาไงไม่รู้ แต่หากพิจารณากันดีๆ ถ้าโค้ชอ้น ออกจากท่าเรือ ในช่วงเข้าด้านเข้าเข็ม แล้วไปรับคุมทีมอื่นทันที ชาตินี้ก็คงไม่ต้องมองหน้ากันแล้ว

แล้วสังคมไทย สังคมเด็ก-ผู้ใหญ่ คงยากที่จะหักกันแบบนี้

ขณะที่เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ ช่วงเย็นวันนี้ (11 พ.ย.) การท่าเรือ ก็แถลงว่า โค้ชอ้น มาขอคุมทีม อีกครั้ง ซึ่งท่าเรือ ก็ให้ แต่ข้อแม้

ข้อความว่า

รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน การท่าเรือ เอฟซี ขอกลับมาคุมทีมอีกครั้ง หลังมีการเข้ามาพูดคุยกับสโมสรฯ ก่อนที่ผู้บริหารให้โอกาส เบื้องต้นจนจบการแข่งขันในช่วงเลกแรก เดือนธันวาคม 2567 และ จะมีการประเมินผลงานร่วมกันอีกครั้ง

“โค้ชอ้น” กล่าวถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกว่า ด้วยการทำงานที่ตั้งเป้าหมายไว้สูงสุดตั้งแต่ต้นฤดูกาล เมื่อไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่ตั้งใจ ผนวกกับความกดดัน ความมุ่งมั่น และ ตั้งใจมากของตนเอง จึงตัดสินใจไปอย่างรวดเร็ว ก่อนขอโอกาส เพื่อกลับเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ และ รับผิดชอบกับภารกิจสำคัญที่เหลืออยู่ของทีม จนจบเลกแรก และ หากผลงานเป็นที่น่าพอใจของผู้บริหาร ก็พร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุดต่อไป จนกระทั่งจบฤดูกาล 2024/25

สรุปคือเมื่อกล้าขอ ก็กล้าให้ แต่มีเกี่ยงงอนนิดหน่อย ขอดูผลงานหลังจบไทยลีกเลกแรก จะได้ไม่ดู อะไรก็ได้สบายๆ เกินไป

คำถามคือ โค้ชอ้น กลืนน้ำลาย มาขอกลับมาทำทีมอีกครั้งจริงหรือไม่ และยอมรับว่าตัวเองตัดสินใจเร็วเกินไปจริงหรือไม่

ก็พูดยาก แล้วก็ฟังยาก การแถลง 2 ครั้ง ทั้งวาจา และไอจี เป็นการตอกย้ำอย่างดีว่า “ตัดสินใจดีแล้ว”

หรือหาก โค้ชอ้น ขอกลับมาจริง บอร์ดท่าเรือ จะสปอร์ต ใจดี ขนาดแค่ตอบว่า “เคๆ” เลยหรือไม่

หลังบ้านจะมีการตกลงพูดคุยกันอย่างไร แต่ตามธรรมชาติ ถ้าจะให้จินตนาการว่า โค้ชอ้น นอนคิดอยู่ 7-8 คืน แล้วขอเปลี่ยนใจ

มันก็ดูแปลกๆ

ที่มาที่ไป จึงดูแปลกๆ ว่าจะออกมาในรูปที่ท่าเรือแถลง

แต่เบื้องหลังก็ไม่มีใครรู้ ยิ่งสไตล์ของ ท่าเรือ ปิดเงียบกริบ

เอาเป็นว่า เมื่อ โค้ชอ้น ยังไม่ไปไหน และท่าเรือ ก็ยังหาโค้ชโปรไลเซนส์ไม่ได้ ตอนนี้ ถือว่าจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งแล้วกัน

ส่วนเงื่อนไจ ขอดูเลกแรก แล้วค่อยพิจารณาอีกที น่าจะแค่ ท่อนสร้อย แก้ขวยเขินเท่านั้นแหละ.