‘เนวิน’ ยอมรับ ‘ขนลุกบรรยากาศยะโฮร์’ เป็นสิ่งที่บุรีรัมย์ต้องเรียนรู้

หลังจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ทีมมาเลเซีย 1-0 ในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2024-25 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ที่สนามสุลต่าบิน อิบราฮิม เมื่อ 11 มี.ค. สามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย “ไฟนัล สเตจ” ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่จะเล่นน็อกเอาท์ นัดเดียวรู้เรื่องในแต่ละรอบ ระหว่างวันที่ 25 เม.ย.-4 พ.ค.68 มีโอกาสเจอนักเตะดัง อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด, ซาดิโอ มาเน จาก อัล-นาสเซอร์ หรือ โรแบร์โต ฟีร์มิโน จาก อัล-อาห์ลี ที่เข้ารอบนี้เช่นกัน โดยจะจับสลากประกบคู่ วันที่ 14 มี.ค.68 ส่วนเงินรางวัลที่ บุรีรัมย์ ได้แล้วแน่ๆ คือ 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 57.3 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ ช่วงกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา นายเนวิน เคยพูดว่า “ยะโฮร์ เจอกันใหม่อีกรอบก็ได้ ไม่รอดผมหรอก ยะโฮร์ ไม่ได้แข็งแกร่ง แม้เอาต่างชาติมาเยอะ พูดให้ท่านประธานลงทุนมากขึ้นหน่อย ปีหน้าเจอกัน จะได้สนุกขึ้น”

ล่าสุด หลังชนะ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ในเพจลุงเนวิน สิ่งที่ บุรีรัมย์ ต้องเรียนรู้จาก ยะโฮร์ ใจความเริ่มจากขอบพระทัย สุลต่าน ตวนกู อิสมาอิล อิบราฮิม ประธานสโมสรยะโฮร์ ดารุล ทักซิม และ ขอบคุณแฟนๆ ยะโฮร์ ที่ต้อนรับ ยอมรับว่ามาอยู่ในสนามที่ดีที่สุดในอาเซียน เกมนี้ไม่ใช่แค่เกมดีสุดอาเซียน แต่เป็นหนึ่งในเกมดีสุดแห่งเอเชีย รู้สึกขนลุกกับบรรยากาศ รับรู้ได้ถึงพลังความกดดันมหาศาล ตั้งแต่ก้าวเท้าลงสนาม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่มีบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องพยายามรวบรวมสมาธิอย่างมาก ความกระหายชัยชนะของแฟนๆ ยะโฮร์ ส่งต่อมาถึงผู้เล่นยะโฮร์ ทั้งทีม ให้กระหายชัยชนะ และวิ่งไม่มีหยุด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเรียนรู้ และสร้างให้เกิดขึ้นที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

หลังเกมการแข่งขัน เจ้าชาย ทรงแสดงให้เห็นว่า ทำไม ยะโฮร์ เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ ทรงแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะสร้างทีมที่ดีกว่านี้ และ ยังคงมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือ ยกระดับทีมยะโฮร์ ให้เป็นทีมที่มีมาตรฐานเอเชีย เป็นสิ่งหนึ่งที่ตน ในฐานะประธานสโมสรบุรีรัมย์ ต้องเรียนรู้ และต้องคิดให้มาก หากต้องเผชิญหน้ากันในสนามแบบนี้ อีกครั้งในอนาคต และแม้จะเป็นคู่แข่งในสนาม แต่ทั้ง 2 ทีม สามารถร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลอาเซียน ได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ข้อความทั้งหมดดังนี้

สิ่งที่ได้จากยะโฮร์ฯ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเรียนรู้ และพัฒนา
ขอขอบพระทัย สุลต่าน ตวนกู อิสมาอิล อิบราฮิม ประธานสโมสรยะโฮร์ ดารุล ทักซิม และ ขอบคุณแฟนๆ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ให้การต้อนรับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ แฟนๆ เป็นอย่างดี และสร้างความประทับใจให้กับพวกเราอย่างมาก ที่ได้มาเยือนเมืองยะโฮร์ บาห์รู
บรรยากาศการแข่งขันเมื่อวานนี้ ที่สนามซุลตันอิบราฮิมลาร์กิน เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากของผู้เล่น และแฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคน
เราได้มาอยู่ในสนามที่ดีที่สุด ในอาเซียน
ในสายตาผม เกมการแข่งขันเมื่อวานนี้ เป็นเกมที่ดีที่สุดเกมหนึ่งของเอเชีย ไม่ใช่อาเซียน
ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ยกระดับฟุตบอลอาเซียน ไปสู่ระดับเอเชีย แล้ว
เราได้มาเห็นแฟนๆ ยะโฮร์ ที่เป็นพลังสนับสนุน อย่างน่าทึ่ง
แม้เราจะรู้มาก่อน และเคยเห็นมาก่อนแล้วว่าแฟนๆ ยะโฮร์ มีพลังมากเพียงใด
แต่เกมเมื่อวานนี้ ผมรู้สึกขนลุก และรับรู้ได้ถึงพลังความกดดันมหาศาล ตั้งแต่ก้าวเท้าลงสนาม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่มีบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ผมต้องใช้ความพยายามรวบรวมสมาธิอย่างมาก แล้วบอกกับลูกทีมทุกคน ให้มีสมาธิกับเกมตลอดเวลา
ถ้าวันนี้ “ไม่มีสมาธิ จะไม่มีชัยชนะ”
ความกระหายชัยชนะของแฟนๆ ยะโฮร์ ส่งต่อมาถึงผู้เล่นทีมยะโฮร์ ทั้งทีม ให้กระหายชัยชนะ และวิ่งไม่มีหยุด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่พวกเราบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเรียนรู้ และสร้างให้เกิดขึ้นที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แม้ผลการแข่งขัน จะออกมาให้แฟนๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้มีความสุข ได้ดีใจ แต่ สำหรับผม เกมเมื่อวานนี้ เป็นเกมที่สมศักดิ์ศรีของแชมป์ไทยลีก และ แชมป์ลีกมาเลเซีย
การตัดสินแพ้ชนะ เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีของ 90 นาที ที่เราแข่งขันกัน และเสี้ยววินาทีนั้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่า
หลังเกมการแข่งขัน เจ้าชาย ทรงแสดงให้เห็นว่า ทำไม ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ของมาเลเซีย
เจ้าชาย ทรงแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะสร้างทีมที่ดีกว่านี้ และ ยังคงมีเป้าหมายที่ชัดเจน คือ ยกระดับทีมยะโฮร์ ให้เป็นทีมที่มีมาตรฐานเอเซีย
ความเข้มแข็งของเจ้าชาย ในฐานะประธานสโมสรยะโฮร์ ดารุล ทักซิม คือ อีกสิ่งหนึ่งที่ผม ในฐานะประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเรียนรู้ และต้องคิดให้มาก หากเราสองทีม ยังต้องเผชิญหน้ากันในสนามแบบนี้ อีกครั้งในอนาคต
ผมเชื่อว่า เอซีแอล อีลิท ปีนี้ ยะโฮร์ กับ บุรีรัมย์ ได้สร้างปรากฎการณ์ให้เอเชีย ต้องหันมามองฟุตบอลอาเซียน ด้วยความเคารพ และยำเกรงมากขึ้น และหวังว่า ผลงานของเราสองทีม จะส่งผลสโมสรในอาเซียน มีที่ยืน ในเอซีแอล อีลิท เพิ่มขึ้น
แม้จะเป็นคู่แข่งในสนาม แต่เราสามารถร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลอาเซียน ได้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ช่วยกันทำให้ความฝันให้ของแฟนฟุตบอลอาเซียน เป็นความจริงได้ คือ ทำให้ทีมฟุตบอลของอาเซียน ไปสู้กับทุกทีมในเอเชีย ได้ ขอเพียงเรานำประสบการณ์ที่เรามี มาแบ่งปัน เรียนรู้ และ สนับสนุนกัน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะเดินเคียงคู่ไปกับ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม และ ทุกสโมสรในอาเซียน เพื่อทำให้วงการฟุตบอลอาเซียน แข็งแรงต่อไปในอนาคต
ขอขอบพระทัย เจ้าชาย ทรงสนับสนุนและทรงเป็นแรงบันดาลใจให้วงการฟุตบอลอาเซียน ด้วยการทำให้เห็นจริง และ ขอเป็นกำลังใจให้สโมสรยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ทรงวางไว้
เนวิน ชิดชอบ
ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด