พูดไม่ออก บอกไม่ถูกกันไป กับสถานการณ์ของ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยหลังแพ้ “เติร์กเมนิสถาน” 1-3 ที่สนามหญ้าเทียม อัชกาบัต สเตเดียม
ผิดหวังกับผลงาน จากที่อย่างน้อยควรมีแต้ม แต่กลับมาแบบมือเปล่า
ไปเจาะประเด็นน่าสนใจ จากความพ่ายแพ้หนนี้
อิชิอิเปลี่ยนทัพยกแผง
จากชุดชนะ อินเดีย 2-0 แฟนบอลหวังจะเห็น เบนจามิน เดวิส, ปรเมศย์ อาจวิไล ลงสนาม แต่ อิชิอิ เลือกเปลี่ยน ยกชุด
ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม, แบ๊กขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์, แบ๊กซ้าย อิรฟาน ดอเลาะ, คู่เซ็นเตอร์ เอเลียส ดอเลาะ, ชินภัทร์ ลีเอาะ, กองกลาง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ตัวรุก “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ (กัปตันทีม), ริมเส้นขวา เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ซ้าย เอกนิษฐ์ ปัญญา, กองหน้า ศุภชัย ใจเด็ด
เหมือนกับ อิชิอิ ตัดสินใจแต่แรก ก่อนเจออินเดียแล้วว่า นัดไหน ใช้ใคร
เข้าใจว่า เป้าหมายคือทำทีมมองอนาคต แต่นี่ทีมอุ่นเครื่องเหมือนเอาไว้เพื่อ 1-2 ปีข้างหน้า แทบไม่ได้เป็นการเตรียมตัวถึงเกมกับ เติร์กเมนิสถาน เลยด้วยซ้ำ
ก็เท่ากับว่า ก่อนเจอเติร์กฯ ไม่ได้ลงทีมกันเลย แล้วจะลงตัวได้ไง
อนาคตน่ะเข้าใจ แต่เหตุซึ่งหน้าก็ต้องเอาก่อน ถ้าตกรอบเอเชียนคัพ แรงส่งสู่บอลโลกหนหน้าก็จะน้อยลง
ที่สำคัญ อิชิอิ ก็คงไม่ได้สานโปรเจ็คต์ตัวเองด้วย
หญ้าเทียมทำพิษ?
มันมีผลจริงๆ ครับ หญ้าเทียม กับหญ้าจริง นักบอลไทยก็ไม่คุ้นอย่างยิ่ง เคยเล่นแต่หญ้าแท้
บอลพุ่ง บอลแฉลบไปไกล ต่างกัน ดูลูกแรก ชินภัทร์ ลีเอาะ กะจังหวะผิดชัดๆ บังไลน์อยู่ดีๆ โดนฉก และอีกหลายจังหวะที่เสียบอล
ส่วนเติร์กเมนิสถาน ดูคุ้นชินกับสังเวียนหญ้าเทียมมากกว่า วิ่งถูกจังหวะมากกว่า
สนามมันมีผล…
แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักทั้งหมด
สู้แบบเติร์กเมนิสถาน
เติร์กเมนิสถาน อยู่ที่ 142 ของโลก ส่วนไทย 99 ของโลก อันดับต่างกัน 43 ขั้น และเอาจริงๆ เจ้าถิ่น ก็ไม่ได้มีชั้นเชิงอะไรที่ดีเด่มากมาย
แทบจะไม้ตายเดียวของ นักรบเติร์กฯ คือความแกร่ง ใจสู้ เข้าหนัก เพรสซิ่งเร็ว ไม่ให้ไทยได้หายใจหายคอ ไม่ให้แต่งตัวนานก็เข้าถึงแล้ว แล้วเข้าแบบหนักๆ ด้วย
ประตู 2-1 ก็มาจากการไล่บี้แดนบน กลายเป็นแทนที่เราจะสวนกลับ กลับโดนสวนกลับอีกที(งงไหม) จนเสียประตู
เติร์กฯ เล่นแค่นี้เลยครับ วิ่งสุด สู้ไม่ถอย ทิ้งบอลยาวไปลุยข้างหน้า
ซึ่งมันได้ผล!
เริ่มต้นก็โอเค แต่ยิ่งเล่นยิ่งเหี่ยว
หลังโดนยิงในเวลาแค่ 35 วินาที จะว่าไป เกมของไทยก็ใช้ได้ กับความเร็วของ 2 ปีก เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, เอกนิษฐ์ ปัญญา และการทะลวงของ ชนาธิป สรงกระสินธ์
แต่พอจบครึ่งแรกยังโดนนำ 1-2 อิชิอิ เลือกจะส่ง ปรเมศย์ ลงมาแทน เอกนิษฐ์ เลยลดทอนความจี๊ดริมเส้นซ้ายลงไป ขณะที่ตัวอื่นทยอยลงมา ก็ไม่ส่งผลให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, เบนจามิน เดวิส, กรวิชญ์ ทะสา, สันติภาพ จันทร์หง่อม
ไทยจากที่บุกๆ กลายเป็นยิ่งแก้เกมยิ่งเหี่ยว โอกาสยิ่งน้อย
จะมีท้ายเกมแหละ ที่บุกเยอะ แต่ก็เพราะ เติร์กฯ ถอยลงไปปิดเกมด้วย
โดนยิง”จังหวะนรก”
ต้องยอมรับว่า นัดนี้ ไทยโดนยิง “จังหวะนรก” จริงๆ ซึ่งแต่ละลูก พลิกโฉมหน้าเกมไปเลย
ลูกแรก จากที่ “เกือบได้” จาก ศุภชัย ใจเด็ด กลายเป็นว่า เติร์กเมนิสถาน สวนตูมเดียว คู่เซ็นเตอร์เราหลงมนต์หญ้าเทียม โดนยิงหลังผ่านไปแค่ 35 วินาที
เหมือนลงสนามไปโดยต่อให้ 1 ลูก
จากนั้นเกมก็โอเค จน ศุภชัย ใจเด็ด โขกตีเสมอนาทีที่ 35 โมเมนตั้มกำลังมา แต่ 2 นาทีต่อมา เติร์กฯ ใช้ลูกตื๊อ ยิงได้อีก นำ 2-1 เหวี่ยงกลับไปไทยเป็นรองเหมือนเดิม
ครึ่งหลัง อิชิอิ กำลังแก้เกมครั้งใหญ่ ถอด ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ออก แล้วส่ง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล กับ เบนจามิน เดวิส ลงแทน แต่การแก้เกม ยังไม่เห็นหน้า เห็นหลัง ก็มาโดนลูกที่ 3 จากเตะมุม แล้วเขาเข่าเข้าไป
ยุบลงไปอีก และไม่สามารถหืออือกลับมาได้อีกเลย
เป็น 3 ประตูที่เสียง่ายดาย และเสียในเวลาที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
แล้วจะได้เข้ารอบไหม
สถานการณ์ไม่ดีแล้วหล่ะ โดยกลุ่มนี้ผ่าน 2 นัด
เติร์กเมนิสถาน 6 แต้ม(5/2)
ศรีลังกา 3 แต้ม(3/2)
ไทย 3 แต้ม(2/3)
ไต้หวัน 0 แต้ม (2/5)
สำหรับโปรแกรม 4 นัดที่เหลือ วันที่ 9 ต.ค.68 : ศรีลังกา พบ เติร์กเมนิสถาน, ไทย พบ ไต้หวัน/วันที่ 14 ต.ค.68 : เติร์กเมนิสถาน พบ ศรีลังกา, ไต้หวัน พบ ไทย/วันที่ 18 พ.ย.68 : ศรีลังกา พบ ไทย, เติร์กเมนิสถาน พบ ไต้หวัน/วันที่ 31 มี.ค.69 : ไทย พบ เติร์กเมนิสถาน, ไต้หวัน พบ ศรีลังกา
รอบนี้คัดแชมป์กลุ่มเท่านั้น ที่เข้ารอบทีมเดียว กฎการคิดคะแนนเข้ารอบ หากว่าจบ 6 นัด แต้มเท่ากัน จะดูเฮดทูเฮด
เติร์กเมนิสถาน ถูกยกเป็นคู่แข่งอันดับ 1 กับไทย ในการชิงเข้ารอบ แต่เมื่อนัดแรก เราเสียท่าไปก่อน ไทยจึงเป็นรอง ที่สำคัญ ยังแพ้ในผลต่าง 2 ประตูคือ 1-3 หากจากนี้ก่อนถึงนัดสุดท้าย ชนะรวดเหมือนกัน ทีมไทย ก็ต้องเปิดบ้านชนะ เติร์กฯ อย่างน้อย 2 ประตู
อย่างไรก็ตาม อาจมีจุดพลิกผัน ในแมตช์เดย์หน้า ที่เตะ 2 เกมรวด
เติร์กฯ จะเตะเหย้า-เยือน กับ ศรีลังกา ซึ่ง ศรีลังกา ก็ไม่ธรรมดา อาจแชร์แต้ม ดึงกันได้
ส่วนไทย เหย้า-เยือน กับไต้หวัน ถ้าตามที่ควรจะเป็น ไทย ก็ต้องชนะ 2 นัด
หากไทยทำได้ แล้วคู่บน ยื้อแต้มกัน ก็อาจส่งให้ ช้างศึก กลับไปสู่จุดได้เปรียบก็ได้
เฮ้อ ทอดถอนใจ แต่จะถอดใจก็ไม่ได้ โอกาสยังมี ก็สู้ ก็เชียร์กันต่อไป.
Scorefootball เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล การแข่งขันทุกลีค ให้บริการทั้ง ผลบอลสด ดูบอลสด ไฮไลท์บอล และทีเด็ดบอล สามารถเช็คผลบอลสดวันนี้ และอัตราต่อรอง แสดงผลเป็นตารางพร้อมภาษาไทย เช็คง่าย พร้อมให้บริการดูบอลสดออนไลน์ แบบ Full HD คมชัด ไม่มีกระตุก และยังมีไฮไลท์บอล ครบทุกลีค อีกทั้งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับทีเด็ดบอล เทคนิควิเคราะห์ผลบอลครบทุกคู่ ทุกการแข่งขัน การันตีแม่นทุกคู่
Copyright scorefootball © 2025 สงวนลิขสิทธิ์