ผลบอลสเปอร์ส ชนะ แมนยู คว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก พร้อมตั๋วไป UCL : PPTVHD36

เกมยูโรป้า ลีก นัดชิงชนะเลิศ สเปอร์ส พบ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้เล่นกันที่ ซาน มาเมส 

แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือ สเปอร์ส เกมนี้ใส่ชื่อ ซน ฮึง-มิน  เป็นแค่สำรอง โดยเลือก ริชาร์ลิซอน สตาร์ตเกมรุกฝั่งซ้าย โดยมี ปาป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า และ โรดริโก้ เบนตันกูร์ เป็น 3 ประสานแดนกลาง

รูเบน อโมริม บอสใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้เลือกให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ถอยมาเล่นมิดฟิลด์ โดย  เมสัน เมาท์ ได้สตาร์ต ส่วน เลนี่ โยโร่ ที่เจ็บจากเกมล่าสุดพบเวสต์แฮม ฟิตลงเป็น 11 คนแรกเช่นกัน

ออปต้า ทำนายผลนัดชิงยูโรป้าลีก สเปอร์ส พบ แมนยู พร้อมสถิติ

ผลบอล บุรีรัมย์ ดวลจุดโทษชนะ คองอัน ฮานอย คว้าแชมป์สโมสรอาเซียน

อัปเดตเมื่อ 22 พ.ค. 2568 (04:06น.)

แมนฯ ยูไนเต็ด

Reuters/Violeta Santos Moura
เบรแนน จอห์นสัน มีชื่อในสกอร์ให้สเปอร์ส ขึ้นนำ

นาทีที่ 11 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สกัดไม่ดี เบรแนน จอห์นสัน ตัดบอลได้ก่อนเลี้ยงเข้ามาในกรอบและหวังเปิดมาแต่ อ็องเดร โอนาน่า ยังเซฟเอาไว้ได้ 

นาทีที่ 16 กูเยลโม่ วิคาริโอ ชกบอลไม่ดี มาเข้าทาง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แตะมาให้  อาหมัด ดิยัลโล่ แตะซ้ายยิงขวาบอลทะแยงมุมหลุดเสาไปน่าเป็นประตู

เกมผ่านครึ่งชั่วโมง เรียกว่าเป็นบอลที่ไหลลื่น ไม่ค่อยมีจังหวะหยุด และเหลือเพียงการเข้าทำสุดท้ายเท่านั้นที่ทั้งคู่ยังไม่ดีพอ

นาทีที่ 42 สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่  ปาป ซาร์ เปิดมาที่เสาแรกให้  เบรแนน จอห์นสัน โฉบมายิงจังหวะแรกไม่โดนแล้วไปโดนแขน ลุค ชอว์ เข้าไป ซึ่งลูกนี้ยกประโยชน์เป็น จอห์นสัน ดาวซัลโวสูงสุดของทีมในทุกรายการ เป็นคนทำประตู และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ 

กลับมาครึ่งหลัง สเปอร์ส ดึงเกมช้า ทั้งในจังหวะได้ฟรีคิก รวมถึงบอลทุ่ม นาทีที่ 58 เลนี่ โยโร่ แย่จากจังหวะฟรีคิกที่  บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดมาให้ แต่บอลมันสุดเหยียดไม่มีน้ำหนักทำให้ กูเยลโม่ วิคาริโอ ปัดเอาไว้ได้

นาทีที่ 66 สเปอร์ส ขยับเปลี่ยนตัวก่อนด้วยการส่ง ซน ฮึง-มิน ลงไปแทน ริชาร์ลิซอน ที่มีอาการเจบ

นาทีที่ 68 แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ราสมุส ฮอยลุนด์ โหม่งจากจังหวะที่ กูเยลโม่ วิคาริโอ ชกออกมาไม่ดี โชคดีที่ มิกกี้ ฟาน เดอ เฟ่น กระโดดเคลียร์บนเส้นเอาไว้ได้

นาทีที่ 71 แมนฯ ยูไนเต็ด เติมความสดในเกมรุกด้วยการ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ โจชัว เซิร์กซี่ ลงไปแทน ราสมุส ฮอยลุนด์ และ เมสัน เมาท์ 

นาทีที่ 74 แมนฯ ยู ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ อเลฮานโดร การ์นาโช่ โยกตัดจากทางซ้ายก่อนยิงด้วยขวา แต่  กูเยลโม่ วิคาริโอ ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟปัดเอาไว้ได้

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปอร์ส เน้นรับเต็มที่เพื่อเน้นสกอร์ พร้อมกับรอจังหวะสวนกลับ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามเจาะในช่วงเจ็บ 7 นาทีแต่ทำไม่สำเร็จ มีเพียงแค่ ลุค ชอว์ โหม่งไปติด กูเยลโม่ วิคาริโอ เซฟไว้ได้

จบเกม สเปอร์ส ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ทำให้ชนะทั้ง 4 นัดที่พบกันในฤดูกาลนี้พร้อมคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 3 ต่อจากฤดูกาล 1971-1972 และ 19831-1984 และถือเป็นแชมป์ครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังจากแชมป์ก่อนหน้านี้คือแชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาล 2007-2008

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
สเปอร์ส (4-3-3) : กูเยลโม่ วิคาริโอ – เปโดร ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิกกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, เดสตินี่ อูโดกี้ – ปาป ซาร์, อีฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตันกูร์  – เบรแนน จอห์นสัน, โดมินิก โซลันกี้, ริชาร์ลิซอน
แมนฯ ยูไนเต็ด (3-4-2-1) : อ็องเดร โอนาน่า – เลนี่ โยโร่, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์- นุสซาร์ มาซราอุย, กาเซมีโร่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, พาทริก ดอร์กู – อาหมัด ดิยัลโล่, เมสัน เมาท์ – ราสมุส ฮอยลุนด์

ยังไม่พบข้อมูล
สถิติการพบกันย้อนหลัง