BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
[email protected]
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
โคล พาลเมอร์ พลาดจุดโทษหนแรกในพรีเมียร์ลีก หลังสถิติ 100 เปอร์เซ็นต์มา 12 ลูกยิงไปติดเซฟแมดส์ เฮอร์แมนเซ่น แล้วเลสเตอร์ ตั้งรับแน่นหนา ทว่ามาโดนทีเด็ดยิงไกลของมาร์ค คูคูเรญ่า พา เชลซี เบียดชนะหวิว 1-0 ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 บนตาราง
เชลซี
Starting Formation: 4-2-3-1
29.
เวสลี่ย์ โฟฟาน่า
73′
20.
โคล พาลเมอร์
73′
18.
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู
89′
ตัวสำรอง
23.
เทรโวห์ ชาโลบาห์
73′
34.
จอช อาเชียมปง
89′
22.
เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์
32.
ไทริก จอร์จ
73′
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
อาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568
กรรมการ ทิม โรบินสัน
เชลซี
1
0
เลสเตอร์ ซิตี้
โรเบิร์ต ซานเชซ ได้ออกสตาร์ตเฝ้าเสาเป็นตัวจริง แนวรุกมีทางเจดอน ซานโช่, เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์ ทำเกมด้านหลังคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ขณะที่โรเมโอ ลาเวีย หายเจ็บมีชื่อเป็นสำรอง ด้านเลสเตอร์ ซิตี้ แพ้รัวๆ แต่วันนี้ใช้เจมี่ วาร์ดี้ กับ แพตสัน ดาก้า เป็นคู่หัวหอกเลย
เอล คานนุสได้ช่องส่องไกล
เอล คานนุสเก็บบอลจังหวะสองได้ก่อนลากหาช่องส่องหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งไปตรงตัวของซานเชซรับเข้าซองเอาไว้
พาลเมอร์ซัดไกลแฉลบบล็อค
เชลซี ตอบโต้มาเหมือนกันพาลเมอร์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนง้างเท้ายิงด้วยซ้ายแต่ฟาสยังขยับมาบล็อคก่อนบอลหลุดออกหลังเสียเตะมุมไป
พาลเมอร์พลาดโทษ!เฮอร์แมนเซ่นเดาทางถูก
กรรมการเป่าจุดโทษให้เจ้าถิ่นจังหวะที่ซานโช่ พาบอลไปสุดเส้นหลังขวาแล้วดึงกลับมาคริสเตียนเซ่นพยายามแหย่แต่ไปเหยียบเท้าของซานโช่กระโดดล้มลง แล้วเป็นทางพาลเมอร์ เอาบอลมาตั้งก่อนยิงไปทางขวาแล้วเฮอร์แมนเซ่นพุ่งถูกปัดไว้ได้
ซานเชซอย่างเหวอ!โทซินบอลโดนหัวชนคานตัวเอง
ซานเชซออกมาปัดบอลครอสเหวอบอลไปชนหัวโทซินกระดอนกลับมาชนคานตัวเองแล้ววาร์ดี้พยายามตามซ้ำแต่ยังมีโคลวิลล์มาช่วยโหม่งทิ้งไปก่อน
เอ็นคุนคู 2 หนยังไม่ได้
เนโต้หลุดไปสุดเส้นหลังทางซ้ายก่อนไหลย้อนมาให้เอ็นคุนคูยิงแบบไม่จับแต่เฮอร์แมนเซ่นก็ยังปัดข้ามคานไปก่อน แล้วจากเตะมุมเอ็นคุนคู ได้โหม่งก็ไม่ตรงอีก
วาร์ดี้กดมุมแคบซานเชซได้เซฟ
จัสตินโหม่งบอลต่อมาถึงวาร์ดี้เกี่ยวบอลติดก่อนยิงมุมแคบบอลเข้ากรอบด้วยแต่ซานเชซปิดมุมเอาไว้แล้วปัดออกหลังไปก่อน
VAR ขอเช็คจุดโทษเนโต้
VAR ขอเช็ตจังหวะที่เนโต้พยายามลากแหวกเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนไปเกี่ยวขาจัสตินล้มลงไปกรรมการไม่ได้ว่าอะไรด้วย สุดท้ายก็ปล่อยให้เล่นต่อ
คูคูเรญ่าซัดไกลสิงห์เฮแล้ว 1-0
เชลซี มาได้ประตูที่ต้องการ เอ็นโซ่จ่ายบอลมาให้คูคูเรญ่าเติมมาก่อนยิงเร็วบอลพุ่งเรียดหนีมือเฮอร์แมนเซ่นเข้าไปทางเสาขวามือ 1-0!!!
เอ็นโซ่ส่องไกล
เอ็นโซ่พาบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนลองซัดบอลพุ่งตรงกรอบแต่เฮอร์แมนเซ่นคราวนี้ไม่พลาดพุ่งไปคว้าเอาไว้ทัน
ซานโช่ได้ยิงไม่ผ่านโคอาดี้
เนโต้ไหลต่อมาให้ซานโช่ โยกไปยิงมุมแคบแล้วแต่ยังมีทางโคอาดี้ตามลงมาขวางทางบล็อคบอลออกหลังไปหวุดหวิด
สิงห์โวยจะเอาจุดโทษ
เชลซีโวยจะเอาจุดโทษเมื่อซานโช่ ง้างยิงแล้วบอลไปโดนแขนของโคอาดี้ที่พยายามเบี่ยงตัวหลบ VAR เช็คแล้วไม่ให้เพราะไม่ตั้งใจบอลไปโดนแขนด้านหลัง
เปเรร่ายิงไม่มีอะไร
เปเรร่าที่เพิ่งลงสนามมาได้โอกาสส่องหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลเบาเกินไปซานเชซยืนรับสบายๆ เลย
สิงห์แซงเรือขึ้นที่ 4
จบเกม เชลซี เป็นฝ่ายเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบหวุดหวิด 1-0 ทำให้แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 บนตารางคะแนน
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-4-2
2.
เจมส์ จัสติน
84′
16.
วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น
84′
11.
บิลัล เอล คานนุส
73′
24.
บูบาการี่ ซูมาเร่
66′
20.
แพตสัน ดาก้า
84′
ตัวสำรอง
21.
ริคาร์โด้ เปเรร่า
84′
8.
แฮร์รี่ วิงส์
66′
40.
ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้
73′
10.
สเตฟี่ มาวิดิดี้
84′
14.
บ็อบบี้ เดอ คอร์โดวา-รีด
84′
73′ 
73′ 
