ชัดๆ ‘เอราวัณ’ ลั่นเป้าหมายติดช้างศึกชุดใหญ่ ยอมรับมีปัญหาภาษา

เอราวัณ การ์นิเยร์ ตัวรุกจากสโมสร โอลิมปิก ลียง ยืนยันว่า ตัวเขาต้องการเล่นกับทีมชาติไทย จนถึงทีมชุดใหญ่ แต่ขอโฟกัสกับทีมชุด 23 ปีเสียก่อน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง

ดาวเตะจากลียง ถูก ทาคายูกิ นิชิกายะ เรียกติดทีมชาติไทยชุด 23 ปี เตรียมแข่งขันอุ่นเครื่อง 2 เกม วันที่ 4 มิ.ย. เวลา 16.00 น. พบ ฮ่องกง ชุด 23 ปี และวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 18.00 น. พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ชุด 23 ปี ทั้ง 2 นัดจะแข่งขันกันที่ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง ยูทูบ BG SPORTS และ True Visions NOW ช่อง Truesports2 นับเป็นการเตรียมตัวสำหรับศึก 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก, ศึก 23 ปีอาเซียน และซีเกมส์ ครั้งที่ 33

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ทีมช้างศึกพลังหนุ่ม เข้ารายงานตัว ฝึกซ้อมวันแรก โดยช่วงเที่ยง ได้ทดสอบร่างกาย ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย มีนักเตะ 21 คน ขาด 2 คนที่ติดภารกิจกับต้นสังกัด และจะตามมาสมทบภายหลังคือ วาริส ชูทอง จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ เสกสรรค์ ราตรี จากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

การตรวจร่างกายประกอบไปด้วย เรื่องของชีพจร, ความดันโลหิต, น้ำหนัก, ส่วนสูง และ INBODY Composition รวมทั้งยังมีการทดสอบความยืดหยุ่นทางร่างกายและกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ พร้อมทั้งทดสอบความแข็งแรง, สปีดความเร็ว, ค่าความทนทาน และ ความคล่องแคล่วว่องไว

เอราวัณ ซึ่งจะได้ลงแข่งในประเทศไทยครั้งแรก กล่าวว่า ตนเองพร้อมมาก หลังได้ฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง กับโอลิมปิก ลียง ชุดใหญ่ ซึ่งถือว่าดีมาก พร้อมสำหรับ 2 เกมที่จะลงสนาม การได้ซ้อมกับ โอลิมปิก ลียง ชุดใหญ่ แตกต่างจากทีมเยาวชนพอสมควร เพราะในทีมชุดใหญ่ ได้เจอกับนักเตะประสบการณ์สูงหลายคน เรื่องฝีเท้าทีมชุดใหญ่ก็ย่อมดีกว่าเยาวชน เป็นประสบการณ์ที่ดี ที่นำมาพัฒนาตัวเองต่อไป

นักเตะตัวรุกทีมชาติไทย กล่าวอีกว่า เป้าหมายในครั้งนี้คืออยากลงเล่น และนำประสบการณ์ที่ได้จากฝรั่งเศสมาช่วยเหลือทีมให้เก็บชัยชนะให้ได้ และพาทีมไปถึงเป้าหมายที่โค้ชและสมาคมฯตั้งเอาไว้

กับคำถามว่า มีเป้าหมายติดทีมชาติไทยชุดใหญ่หรือไม่ เอราวัณ ตอบว่า “ส่วนตัวผมสนใจที่จะติดทีมชาติไทยชุดใหญ่แน่นอน แต่ตอนนี้ขอโฟกัสกับทีม ยู 23 ก่อน เพื่อทำผลงานออกมาให้ดี และพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็น”

ในเรื่องการสื่อสาร ที่ เอราวัณ ถนัดภาษาฝรั่งเศส นั้น เจ้าตัวกล่าวว่า พยายามเรียนการพูดภาษาไทยและพัฒนาภาษาอังกฤษให้ดี แต่ที่ผ่านมาตนโฟกัสกับการพูดฝรั่งเศส ทำให้อาจจะทำได้ช้า แต่เชื่อว่าปีหน้าจะทำได้ดีขึ้นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ