ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ฟอร์มโหดต่อเนื่องเมื่อออกนอกบ้านไปไล่ยำใหญ่ใส่ ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-2 ในเกมที่พวกเขารัวขาดใช้เวลาแค่ 36 นาที นำเจ้าถิ่นห่างถึง 4-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์มโหฬาร 5-2 ปิดเกมเอาชนะเจ้าถิ่นด้วยสกอร์ดังกล่าว พร้อมขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงก่อนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะลงสนามในวันอาทิตย์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
33.
เอแมร์ซอน
65′
4.
คาร์ลอส โซเลร์
78′
10.
ลูคัส ปาเกต้า
77′
9.
มิคาอิล อันโตนิโอ
65′
7.
คริสเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์
46′
ตัวสำรอง
39.
แอนดรูว์ เออร์วิ่ง
78′
18.
แดนนี่ อิงส์
65′
24.
กิโด้ โรดริเกซ
77′
19.
เอ็ดสัน อัลวาเรซ
46′
5.
วลาดิเมียร์ ชูฟาล
65′
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม
วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2567
กรรมการ แอนโทนี่ เทย์เลอร์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
2
5
อาร์เซนอล
1-4 วาน-บิสซาก้า 38′
2-4 เอแมร์ซอน 40′
0-1 กาเบรียล 10′
0-2 ทรอสซาร์ 27′
0-3 โอเดการ์ด 34′ (Pen.)
0-4 ฮาแวร์ตซ์ 36′
2-5 ซาก้า 45+5′ (Pen.)
อาร์เซนอล ก่อนลงสนามอยู่อันดับ 5 ตามหลัง จ่าฝูง ลิเวอร์พูล ห่างถึง 9 คะแนน ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางเลือกต้องเก็บ 3 แต้มจากเกมเยือนเวสต์แฮมเท่านั้น เพื่อประคองสถานการณ์ลุ้นแชมป์ไม่ให้แย่ไปกว่านี้
มิเกล อาร์เตต้า จัดทัพไม่มี โธมัส ปาร์เตย์ และมิเกล เมริโน่ สองมิดฟิลด์ที่มีปัญหาบาดเจ็บ จอร์จินโญ่กับเลอันโดร ทรอสซาร์ ได้สตาร์ตเป็นตัวจริง
ฆูเลน โลเปเตกี คุมเวสต์แฮมที่ข้างสนามไม่ได้ เนื่องจากติดโทษแบนหลังสะสมครบตามกำหนด โดยพวกเขายึดทีมชุดเดิมจากนัดที่เอาชนะนิวคาสเซิลมา 2-0
สูตรเตะมุมมาเร็ว ปืนขึ้นนำ 1-0
เจ้าพ่อสูตรเตะมุมที่แท้จริง อาร์เซนอลได้ประตูขึ้นนำไวจากคอนเนอร์ที่เปิดมาเสาแรก มีผู้เล่นสกรีนให้ กาเบรียล ได้ โขกคนเดียวโล่งๆ หน้าประตู 1-0
ซัมเมอร์วิลล์ยิงคืนแต่ล้ำหน้า
ซัมเมอร์วิลล์ หลุดเดี่ยวเข้าไปชิปข้ามราย่าเข้าประตูไปอย่างสุดสวย แต่สุดท้ายไม่ได้ประตู เนื่องจากเขาอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตั้งแต่แรกแล้ว
ซาก้า+โอเดการ์ด = 2-0
อาร์เซนอล ที่รูปเกมดีกว่าเยอะมาได้ประตู 2-0 จากการประสานงานที่สุดลงตัวระหว่างซาก้ากับโอเดการ์ด ไปจบที่ ซาก้า หลุดโล่งไหลบอลให้ทรอสซาร์แทบอินง่ายๆ เข้าไป
ซาก้าเรียกจุดโทษได้อีก
ไปกันใหญ่ อาร์เซนอลมาได้จุดโทษอีก จากซาก้า พาบอลลุยเข้าเขตโทษก่อนโดนปาเกต้าเกี่ยวล้ม ผู้ตัดสินให้รางวัลกับทีมเยือนทันที
โอเดการ์ดสังหารโทษหนี 3-0
ซาก้า ลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเอง ก่อนจะเปลี่ยนให้ โอเดการ์ด ยิงเบียดเสาขวาเข้าประตูไปแบบหวาดเสียวนิดๆ เพราะฟาเบียนสกี้พุ่งถูกทาง 3-0 แล้ว
ไปกันใหญ่ ปืนยิงขาด 4-0
เวสต์แฮม หมดสภาพ อาร์เซนอลมายิงประตู 4-0 จากทรอสซาร์ วางบอลห้ามไลน์รับ คิลแมน ทิ้งตัวสกัดพลาดกลายเป็น ฮาแวร์ตซ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงผ่านมือฟาเบียนสกี้อย่างง่ายดาย
ค้อนไม่ยอม AWB ยิงไล่มา 4-1
เวสต์แฮม ยังไม่ยอมยิงไล่มา 4-1 จากความยอดเยี่ยมของ โซเลร์ จ่ายบอลทะลุช่องให้วาน-บิสซาก้า หลุดทางขวาเข้าไปยิงมุมแคบผ่านราย่าเข้าประตูไป
เอแมร์ซอนฟรีคิกสุดสวยปลุกความหวัง 4-2
เอาว่ะ! เวสต์แฮมเรียกโมเมนตั้มยิงไล่มา 4-2 จากฟรีคิกสุดสวยของ เอแมร์ซอน ปั่นโค้งข้ามกำแพงฮุคเสียบเสาแรกเข้าไปเลย
ปืนมาได้จุดโทษอีกลูก
อาร์เซนอลมาได้จุดโทษที่ 2 ของเกมนี้ จากฟาเบียนสกี้ ออกมาชกบอลแต่กลายเป็นไปซัดเอาที่หน้าของกาเบรียลจังหวะพยายามเทคตัวขึ้นโขกลูกเตะมุม ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษทันที
คราวนี้ซาก้ายิงเองซัดหาย 5-2
คราวนี้ ซาก้า ยิงเองเลือกซัดไปทางขวา ฟาเบียนสกี้ พุ่งตามไปปัดโดนแต่หยุดความแรงไม่อยู่ อาร์เซนอลหนีห่างอีกครั้ง 5-2
ครึ่งหลังเปลี่ยนตัวทั้ง 2 ทีม
ทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนแปลง
อาร์เซนอลส่งคิวิออร์เล่นแทนกาเบรียลที่บาดเจ็บ
เวสต์แฮมส่งอัลวาเรซแทนซัมเมอร์วิลล์
ค้อนครองบอลได้บุกเยอะขึ้น
อาร์เซนอล เหมือนจะเล่นเกมรับมากขึ้น ทำให้เวต์แฮมมีโอกาสครองบอลทำเกมรุกมากกว่าครึ่งแรก และมีลุ้นจากลุกพลิกยิงของอันโตนิโอ บอลแฉลบถากเสาออกหลังไปนิดเดียว
ปืนกลับมาทำได้ดีกว่าอีกครั้ง
เวสต์แฮมบุกได้อยู่แปปเดียวเกมก็กลับมาเป็นอาร์เซนอลได้บุกต่อเนื่องอีกครั้ง
ปืนเริ่มทยอยเปลี่ยนตัวออกมาพัก
เกมเหลือ 25 นาที อาร์เตต้าเห็นทีมคุมสถานการณ์อยู่หมัดเริ่มทยอยเปลี่ยนตัวผู้เล่นให้ออกมาพัก-ลงไปเคาะสนิม
ปืนคุมทุกอย่างได้หมด
เข้าช่วงท้ายเกม อาร์เซนอลปิดเกมคุมทุกอย่างได้หมดแล้ว
อิงส์ได้ยิงโล่งๆ ไม่เข้า
โอกาสทองของเวสต์แฮม ซาลิบาสกัดบอลพลาด ราย่า ก็ออกมาไปคว้าบอลวืดเปิดโอกาสให้ อิงส์ ได้ยิงโล่งๆ มุมแคบส่งบอลหลุดเสาไกล อาร์เซนอลรอดเหลือเชื่อ
ครบ 90 นาที ไม่มีปัญหาอาร์เซนอลปิดเกมตั้งแต่ครึ่งแรกเอาชนะเวสต์แฮมไป 5-2
อาร์เซนอล
Starting Formation: 4-3-3
6.
กาบรียล มากัลเญส
46′
33.
ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่
56′
8.
มาร์ติน โอเดการ์ด
75′
7.
บูคาโย่ ซาก้า
75′
ตัวสำรอง
30.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
75′
9.
กาเบรียล เชซุส
75′
17.
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
56′
15.
ยาคุบ คิวิออร์
46′
65′ 
78′ 
