เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นวันแรก ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมีคีย์แมนวงการกีฬาร่วมยินดี
นายทนุเกียรติ เปิดเผยว่า งานผู้จัดการกองทุนฯ นั้น ถือว่าเป็นงานที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่ ตนมองว่ามีสิ่งที่จะต้องทำเยอะทีเดียว แต่ก็ต้องใช้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการผลักดันงานกีฬาให้สำเร็จลุล่วง ทันเป้าหมายที่วางเอาไว้ เจตนารมณ์ของกองทุนฯ คือแหล่งทุนในการส่งเสริมและพัฒนากีฬา ตามนโยบายของคณะกรรมการบริหารกองทุน โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธาน ส่วนตัวผู้จัดการกองทุนฯ มีหน้าที่นำนโยบาย นำคำขอจากสมาคมกีฬา, กกท. นำเสนอ เพื่อให้บอร์ดกองทุนฯ เห็นชอบ
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงปัญหาที่ผ่านมาระหว่างกองทุนฯ กับสมาคมกีฬา ในเรื่องการเบิกจ่ายเงินจะแก้ไขอย่างไร นายทนุเกียรติ ตอบว่า ได้รับทราบและเห็นถึงปัญหานี้มาโดยตลอดตั้งแต่สมัยที่ทำงานอยู่ใน กกท. ซึ่งปัญหานี้อาจจะเป็นอุปสรรคอันหนึ่งในการพัฒนาวงการกีฬาไทย การเข้ามาจะหาวิธีลดขั้นตอน, ลดระยะเวลา ให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามแผนงานให้เร็วที่สุด โดยไม่ผิดระเบียบของกองทุนฯ เพื่อให้เงินถึงมือผู้ขอเร็วยิ่งขึ้น
“งานเร่งด่วนตอนนี้คือการพิจารณา ปรับปรุงแก้ไข งบประมาณในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งต้องหารือกับสมาคมกีฬาและ กกท. รวมถึงรับนโยบายจาก บอร์ดกองทุนฯ ว่ามีเรื่องอะไรเน้นย้ำเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อรวบรวมเสนอให้พิจารณาและเห็นชอบงบประมาณปี 2568 ต่อไป”
นายทนุเกียรติ ยังกล่าวถึงงบเตรียมทีมซีเกมส์ ที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ว่า จะต้องพูดคุยกับ กกท. และสมาคมกีฬา ซึ่งการเพิ่มจำนวนชนิดกีฬาเป็น 50 ชนิดกีฬา ก็ต้องเตือนว่ากรอบวงเงินมีเท่าเดิม แต่จะเรียงลำดับความสำคัญอย่างไร เพื่อให้งานไปสู่เป้าหมาย ซึ่งต้องมาพูดคุยกันด้วยเหตุและผลกันต่อไป
“ในยุคที่ผมเข้ามาเป็นผู้จัดการกองทุนฯ ในฐานะที่เป็นคน กกท. มาก่อน วันนี้เข้ามารับใช้วงการกีฬา จะเน้นการพบปะพูดคุย หาทางออกร่วมกัน แก้ไขปัญหาต่างๆ เชื่อว่าน่าจะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ถ้าทุกคนมองว่าซีเกมส์สำคัญ ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนเอเชียนอินดอร์เกมส์ ก็ต้องรีบคุยให้ได้ความชัดเจนเร็วที่สุด” ผู้จัดการกองทุนกีฬาคนใหม่ กล่าว.
