เข้าทาง ‘ดิยาร์ร่า’! ศาลตัดสินกฎฟีฟ่าบางข้อขัดกฎสหภาพยุโรป

ศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรปตัดสินว่ากฎของ ฟีฟ่า เกี่ยวกับการย้ายทีมของนักเตะในบางข้อ ขัดต่อกฎหมายของสหภาพยุโรปในเรื่องการแข่งขันทางการค้าและเสรีภาพ หลังจากถูก ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ฟ้องร้อง

กฏดังกล่าวว่าด้วยเรื่องข้อบังคับสำหรับนักเตะในการตามหาสโมสรใหม่หลังเป็นฝ่ายโดนยกเลิกสัญญา แต่ศาลมองว่ามีความขัดแย้งต่อกฎของสหภาพยุโรป

ศาลของยุโรปมองว่ากฎของ ฟีฟ่า ว่าด้วยเรื่องข้อบังคับสำหรับนักเตะในการตามหาทีมใหม่หลังเป็นฝ่ายโดนต้นสังกัดยกเลิกสัญญา มีความขัดแย้งกับกฏหมายของสหภาพยุโรป

เคสนี้มีจุดเริ่มต้นจาก ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า อดีตนักเตะของ เชลซี และ เรอัล มาดริด ที่ดำเนินการฟ้องมาตั้งแต่ปี 2015 หลังจากเขามีปัญหากับต้นสงกัดในเวลานั้น

ดิยาร์ร่า เซ็นสัญญากับ โลโกโมทีฟ มอสโก ไว้นาน 4 ปีตอนที่ย้ายร่วมทีมในปี 2013 แต่มีการยกเลิกสัญญาเกิดขึ้นในปีถัดมาหลังเขาไม่แฮปปี้กับการโดนหั่นค่าเหนื่อย

โลโกโมทีฟ ได้ร้องเรียนต่อ ฟีฟ่า เพื่อขอเรียกร้องค่าชดเชยจาก ดิยาร์ร่า แต่นักเตะก็ร้องเรียนกลับเพื่อเอาค่าชดเชยจากค่าเหนื่อยในส่วนที่เขาไม่ได้รับ

ศาลกีฬาโลกตัดสินว่า โลโกโมทีฟ ยกเลิกสัญญาของ ดิยาร์ร่า ด้วยความชอบธรรม ฟีฟ่าจึงลงโทษแบนนักเตะ 15 เดือนและสั่งให้จ่ายชดเชยเป็นเงิน 10.5 ล้านยูโร

ดิยาร์ร่า บอกว่าการตามหาสโมสรใหม่ยังได้รับผลกระทบจากกฎของฟีฟ่า เนื่องจากกฎระบุว่าทีมใหม่ของเขาอาจจะโดนบทลงโทษทั้งการปรับเงินและถูกสั่งห้ามซื้อขายหาก

เขายังอ้างว่าการย้ายซบ ชาเลอรอย สโมสรในเบลเยี่ยมต้องล่มลงเพราะกฎดังกล่าว และฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก ฟีฟ่า รวมถึงสมาคมฟุตบอลเบลเยี่ยมเพราะทำให้เขาชวดเงิน 6 ล้านยูโร

การฟ้องร้องดังกล่าวยังคงดำเนินอยู่โดยผ่านทางศาลเบลเยี่ยม และเคสนี้ก็ถูกส่งต่อให้ศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรปตัดสิน ซึ่งจากนี้ไปก็จะถูกส่งกลับสู่ศาลเบลเยี่ยมเพื่อทำการพิพากษาขั้นสุดท้าย

ผู้เชี่ยวชาญบางรายบอกว่าการตัดสินหนนี้อาจส่งผลต่อวงการฟุตบอลเหมือนคดีของ ฌ็อง-มาร์ก บอสแมน เมื่อปี 1995 ที่กลายเป็น “กฎบอสแมน” ในภายหลัง