ฌอน ไดช์ ปลอบใจ แอชลี่ย์ ยัง เจอเรื่องปกติของฟุตบอล ภายหลังจอมเก๋า เอฟเวอร์ตัน ถูกเปลี่ยนลงท่ามกลางเสียงโห่จากแฟนตัวเอง แถมสังหารจุดโทษติดเซฟ ดวลเป้าแพ้คารังต่อ เซาแธมป์ตัน 6-5 ตกรอบ คาราบาว คัพ
ศึกบอลถ้วยระหว่างทีมบ๊วย กับรองบ๊วย พรีเมียร์ ลีก วันอังคารที่ผ่านมา อับดูลาย ดูคูเร่ โขกเตะมุมช่วย “ท๊อฟฟี่” ขึ้นนำนาทีที่ 20 จากนั้นไม่นาน เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส โหม่งฟรีคิกตีเสมอให้ “นักบุญ”
ในการดวลจุดโทษ สองทีมยิงเข้าทั้ง 5 คนแรกกระทั่ง ยัง วัย 39 ปีสังหารกลางประตูโดน อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ นายด่านคู่แข่งปัดทิ้ง ตกรอบคา กูดิสัน ปาร์ค
สถิติเปิดเผย เอฟเวอร์ตัน ครองบอลเพียง 25 เปอร์เซนต์ สร้างโอกาสยิง 6 ครั้งตลอด 90 นาที และ ไดช์ สัมภาษณ์หลังแข่งถึงรูปเกม:
“ผมคิดว่าเราทำได้ดีที่สุดด้วยสภาพผู้เล่นที่เหลืออยู่ เมื่อคืนมีผู้เล่น 3 คนป่วยกะทันหัน แต่จากฟอร์มการเล่นและโอกาสแล้ว เราดีพอที่จะชนะเกมนี้”
“เราไม่สามารถจบสกอร์เพื่อปิดเกมอีกครั้ง ผมรู้ว่ามันคือความท้าทายมาตั้งแต่ก่อนเข้าคุมทีมนี้อีก เรายังคงไม่มีความเฉียบคม แล้วเกมก็ไปถึงจุดโทษ”
โดมินิค คัลเวิร์ค-เลวิน กองหน้าตัวจริง, วิตาลี่ มีโกเลนโก้, เจมส์ การ์เนอร์, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ ต่างไม่มีส่วนร่วม เพราะปัญหาความฟิต ส่วน อิดริสซ่า เกย์ ติดภารกิจครอบครัว
นาทีที่ 62 ระหว่าง ยัง ถูกเปลี่ยนลงมาแทน เบโต้ หัวหอกตัวเป้า ปรากฎเสียงโห่ไม่พอใจจากแฟนบอลในสนามโดย ไดช์ สั่งให้ อิลิมาน เอ็นเดียเย่ มิดฟิลด์ขึ้นไปค้ำกองหน้าแทน
“วันนี้ทีมมีผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ฟิตแค่ 12 คน เราแค่พยายามปรับทีมเพื่อชัยชนะ ตอนนั้นเราคิดว่าทีมไม่มีโอกาสหากเล่นด้วยสไตล์เดิม” ไดช์ ชี้แจงเพิ่มเติม
“อิลิมาน เป็นผู้เล่นที่แตกต่างออกไป เขาสามารถลากเลื้อย, พลิกบอล และวิ่งทะลุแนวรับได้ ตอนนี้เรามีกองหน้าฟิตสมบูรณ์แค่คนเดียว และคิดไว้แล้วว่าเขาจะไม่สามารถอยู่จนจบเกม”
“ผมเข้าใจแฟนบอลอย่างเต็มที่ ยัง มีอายุและความฉลาดพอจะรู้ว่าบางทีฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ทุกคนรู้ดีว่าเขามืออาชีพแค่ไหน”
